เครื่องบินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิหลังเที่ยง
คืนไปไม่มาก ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง เราก็มาถึง
สนามบินแห่งชาติเอเธนส์ตามเวลาของกรีซประมาณ
07:30 น. หลังจากตรวจหนังสือเดินทางและรับกระเป๋าแล้ว เราก็ตรงไปยังเคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน Aegean Airlines เพื่อเดินทางต่อไปยังเกาะซานโตรินี (Santorini) ซึ่งเราได้จองตั๋วล่วงหน้าทางอินเตอร์เน็ตมาเรียบร้อยแล้ว ที่เลือก Aegean Airlines ก็เพราะคำแนะนำของเพื่อนที่เคยมาว่าสายการบินนี้ไม่ค่อยดีเลย์ ซึ่งเราก็ไม่เจอดีเลย์เหมือนกัน
     ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก็มาถึงเกาะซานโตรินี ภูมิอากาศของเกาะกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีลมพัดแรงทำให้รู้สึกหนาวยะเยือกจนต้องคว้าเสื้อแจ็กเก็ตมาใส่ทันที ตรวจสอบดูจากเทอร์โมมิเตอร์อันจิ๋วที่พกติดตัวพบว่าอุณหภูมิประมาณ 14 องศาเซลเซียส ในขณะที่ช่วงเดือนเมษายนที่เรามาถึงซานโตรินีนั้นบ้านเราร้อนแทบบ้า
      เราพบฟราน พนักงานของ Aroma Suite ที่พักที่เราจองผ่านอินเตอร์เน็ต ตรงด้านหน้าสนามบิน จากนั้นพวกเราพร้อมกระเป๋า 4 ใบก็เบียดกันเข้าไปในรถซิตี้คาร์คันเล็ก ถนนบนเกาะนี้เป็นถนนเล็กๆบ้านเรือนก็อยู่ตามเชิงผา ซึ่งส่วนมากรถเข้าไปไม่ถึง ต้องจอดไว้ที่จุดจอดรถที่ใกล้ที่สุดและเดินเข้าไป รถคันเล็กๆจึงสะดวกสบาย

      นั่งรถเพียง 10 นาทีก็มาถึงฟิรา (Fira) เมืองหลวงของซานโตรินีที่อยู่บริเวณตอนกลางของเกาะ จากนั้นก็ไปเช็คอินเข้าที่พัก ราคา 160 ยูโรต่อคืน พักได้ 4 คน มีห้องนอน ห้องนั่งเล่นกว้างขวางพร้อมครัวเล็กๆ และวิวภูเขาไฟกลางทะเลอีเจียนอีกต่งหาก
     บ่ายแรกในกรีซเราออกเดินสำรวจเมือง ผ่านทั้งร้านขายของที่ระลึก ขายเครื่องประดับ ขายงานศิลปะ โรงแรม ร้านอาหาร ซึ่งล้วนแต่มีความน่ารัก อาคารส่วนมากทาสีขาว หรือไม่ก็เป็นสีโทนอุ่น แต่จะเพิ่มความสดใสด้วยสีสดๆตามประตู กรอบหน้าต่างหรือบันได
     การเดินเที่ยวเมืองฟิราเป็นการเดินเที่ยวไปตามซอกซอยและต้องขึ้นเนินลงเนิน จึงควรสวมรองเท้าที่ใส่สบาย พวกเราลัดเลาะไปจนพบสถานีเคเบิลคาร์สำหรับนั่งลงไปท่าเรือเก่าในราคา 4 ยูโร
     ที่ท่าเรือเก่า พบนักท่องเที่ยวนั่งเรือเล็กจากเรือสำราญที่จอดลอยลำอยู่ริมเกาะภูเขาไฟเพื่อเข้ามาเที่ยวบนเกาะมากมาย นักท่องเที่ยว ส่วนมากเลือกการนั่งลาขึ้นไปเที่ยวเมืองที่อยู่ด้านบนที่พวกเราเพิ่งนั่งเคเบิลคาร์ลงมา ราคาค่านั่งลา 4 ยูโรเท่าเคเบิลคาร์ หรือจะเดินขึ้นบันไดไปเองก็ได้