ก่อตั้งขึ้นในปีพุทธศักราช 2493 บริษัท ย่งกี่ จำกัด ได้เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในแวดวงอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และวงการจำหน่ายอะไหล่ยานยนต์ทดแทน หรือ Aftermarket มานานกว่า 70 ปี ปัจจุบันมีสินค้าคุณภาพมากกว่า 500 รายการ ได้แก่ อะไหล่สำหรับช่วงล่างรถยนต์ อะไหล่ บังคับเลี้ยว ระบบเบรก รวมถึงผลิตภัณฑ์ชนิดสายและเคเบิลต่างๆ อะไหล่เกี่ยวกับเครื่องยนต์ และอื่นๆ ซึ่งครอบคลุมรถเชิงพาณิชย์(ตัวอย่าง รถกระบะขนาด 1 ตันหรือที่น้ำหนักเบากว่า) และรถบรรทุกใหญ่ (ได้แก่รถบรรทุก รถหัวลากและเทรเลอร์) ปัจจุบันย่งกี่มีร้านค้าตัวแทนจำหน่ายกว่า 2,000 ร้านค้าทั่วประเทศและมีผู้แทนขายที่มากด้วยประสบการณ์มานานดูแล เป็นหนึ่งในความสำเร็จที่เข้มแข็ง ย่งกี่ไม่เพียงดำเนินธุรกิจในประเทศแต่เพียงเท่านั้น บริษัท Automotive Products Import and Export Center จำกัด หรือเอเปค อยู่ในส่วนฝ่ายต่างประเทศของย่งกี่ ยังมีฐานลูกค้าจำหน่ายอะไหล่มากกว่า 30 ประเทศ อาทิ ตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกฉียงใต้ อาฟริกาใต้ เป็นต้น
NPN-Nippono และ NBK เป็นตราสินค้าที่ได้รับการพัฒนาในตลาด ซึ่งทั้งสองแบรนด์ได้วางตำแหน่งในตลาดที่แตกต่างกันสำหรับตลาดบนและกลาง และรับประกันคุณภาพโดยย่งกี่ นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโรงงานของเราเองแล้ว ย่งกี่ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดจำหน่ายแบรนด์ชั้นนำ รวมถึงมีหุ้นส่วนทางการค้าในการผลิตเพื่อป้อนสินค้าคุณภาพให้กับย่งกี่อีกด้วย

คุณวีรศักดิ์ กิตะพาณิชย์ ผู้บริหารรุ่นที่ 2 ในปัจจุบัน ผู้ซึ่งเล็งเห็นว่าย่งกี่จะต้องมุ่งสู่ความเป็นผู้จัดจำหน่ายระดับมืออาชีพในภูมิภาคเอเชีย ย่งกี่จัดได้ว่าเป็นบริษัทจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์แห่งแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระบบงานบริหารคุณภาพ ISO 9001:2000 ภายใต้นโยบายคุณภาพว่า “จำหน่ายอะไหล่รถยนต์คุณภาพมาตรฐาน ส่งมอบตรงต่อเวลา ลูกค้าพึงพอใจ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง” นอกเหนือจากนี้ คุณวีรศักดิ์ยังได้ริเริ่มประกาศความเป็นสมบูรณ์เทรดดิ้งกรุ๊ป หรือเอสทีจี ในโอกาสสำคัญของการฉลองย่งกี่อายุครบ 60 ปีในปี 2553 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตที่มีต่อโครงสร้างธุรกิจ

ประเทศไทยมีความเข้มแข็งในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่เหนือกว่าประเทศอื่นโดยเฉพาะสำหรับรถบรรทุกเล็กและรถนั่งส่วนบุคคล ดังนั้น เพื่อเสริมเครือข่ายให้กับธุรกิจร่วมกัน STG มีความยินดีกับหุ้นส่วนทางธุรกิจทุกรายที่สนใจจะร่วมทำธุรกิจด้วยกันและร่วมพัฒนาธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน