หากสิ่งก่อสร้างที่ถือว่ายิ่งใหญ่ไม่เคยมีมาก่อนเป็นพระราชวินิจฉัยที่สร้างสรรค์ยิ่งของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ก็คือ ปราสาท
บายน อันเป็นปราสาทที่มียอดปราสาท ๕๔ ยอด แทน ๕๔ เมืองใหญ่ในราชอาณาจักร ทุกยอด จำหลัก เป็น รูปหน้าบายนที่มี ความหมาย เป็น ๒ นัยยะ คือเป็นรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือเป็น พระพักตร์ของ พระเจ้าชัยวรมัน ที่คอยสอดส่องดูแลราษฎรทั้งปวงในราชอาณาจักรด้วยพระราชอำนาจสิทธิ์ ขาดดั่งเทวราชา และด้วยพระราชกรุณาดังรอยยิ้มนุ่มนวลบนใบหน้าบายน ที่เป็นที่รู้จักกันว่ารอยยิ้ม แห่งบายน

น่าเสียดายที่หลังจากยุคของ พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ พระเจ้าชัยวรมันที่ ๘ ในยุคถัดมากลับรื้อฟื้นศาสรา พราหมณ์อย่างบ้าคลั่ง พระพุทธรูปและสิ่งก่อสร้างหลายหลากในบายนถูกทำลายเปลี่ยนแปลงสภาพ ให้เป็น พรหมณ์ปรากฏ ร่องรอย ให้เห็น เด่นชัด ในปราสาทบายน กรทั่งราชบุตรเขยของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๘ ต้องถอดพระองค์ออกและปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งเมืองพระนครศรีนทรวรมันเป็นพระองค์ถัดมา

ซึ่งหม่อมเจ้าจันทร์จิรายุ รัชนี หรือ พ. ณ. ประมวญมารค และอาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม นักวิชาการไทยจ่าง เสนอแนวคิดว่าศรีนทรวรมันนั้นก็คือศรีอินทราทิตย์ราชบุตรเขยของกษัตริย์เขมร หรือพ่อขุนผาเมืองที่ทรงร่วม รบกับพ่อขุนบางกลางหาวยึดสุโขทัยคืนจากกบฎเขมรขอมสมาดโขลญลำพง และมอบเมืองสุโขทัยให้พ่อขุน บางกลางหาวพร้อมชื่อศรีอินทราทิตย์ ส่วนพ่อขุนผาเมืองราชบุตรเขยกษัตริย์เขมร หลับคืน สู่เมืองพระนคร และได้เป็นกษัตริย์เขมรองค์ต่อมา

        ทั้งหมดนี้เรื่องราวยังยืดเยื้อยาวนานแต่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือ เป็นเรื่องสนุกของตนที่สนใจประวัติศาสตร์ ควรค่ากับการศึกษาเรียนรู้กันต่อไป  
                                                                                                                                                                                                  I 1I 2 I 3 I 4 I 5 I