Chanel (Thailand) Ltd.

หน้าที่ความรับผิดชอบหลัก: 1. ทำการปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าได้อย่างดีเยี่ยมโดยเป็นไปตามสไตล์ของชาเนล เจ้าหน้าที่ปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าต้องตระหนักถึงหลักพื้นฐานของการปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าของชาเนลและเสน่ห์ความงามของเสื้อผ้าเดิม/ซิลลูเอทของเสื้อผ้าที่จะแก้ไข ปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าตามรายละเอียดเฉพาะของลูกค้าเพื่อให้พอดีเหมาะสม และนำหลักการออกแบบ โครงสร้าง และสไตล์ของเสื้อผ้ามาปรับใช้อย่างเหมาะสม นั่นคือ ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนบางส่วนของเสื้อผ้าที่มีจุดบกพร่อง เช่น กระเป๋า ซิป ส่วนที่ติดเข้าด้วยกัน กระดุม ข้อมือเสื้อและซับใน เจ้าหน้าที่ปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าจะต้องทำการวัดตัวลูกค้าและทำการกลัดหมุด/ลองเสื้อให้ลูกค้า ถ้าเจ้าหน้าที่ดูแลด้านเสื้อผ้าไม่ว่าง มีทัศนคติที่เป็นมืออาชีพเสมอ 2. มีส่วนร่วมในผลการปฏิบัติงานเชิงคุณภาพของเวิร์กช็อปและบูติค ทำการปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าภายในระยะเวลาเตรียมการที่มี ดูแลรักษาอุปกรณ์/เครื่องมือที่ใช้ในการปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าและแจ้งเตือนเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ เจ้าหน้าที่ปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าจะเข้าร่วมในการประชุมและการฝึกอบรมที่สำคัญทั้งหมดของบูติค โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับแฟชั่นเสื้อผ้า (RTW) เจ้าหน้าที่ปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าอาจได้รับการขอให้อธิบายเกี่ยวกับงานปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ทำเสร็จแล้วให้แก่ FA เข้าใจถึงธุรกิจค้าปลีกและการปฏิบัติงานและขั้นตอนการค้าปลีกพื้นฐานของบูติค รวบรวมเอกสาร (เช่น แบบฟอร์มการปรับเปลี่ยนเสื้อผ้า) ขั้นตอนดำเนินการ ตารางเวลา การวางแผน และการคาดหมายเกี่ยวกับคำขอ เคารพและทำงานร่วมกับส่วนปฏิบัติงานสนับสนุนได้อย่างราบรื่น 3. ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม สามารถยกระดับและทำงานร่วมกับบทบาทหน้าที่ต่างๆ ทั้งหมดในบูติคและเวิร์กช็อป (เจ้าหน้าที่ดูแลด้านเสื้อผ้า, FA, ผู้เชี่ยวชาญด้านสไตล์, หัวหน้าบูติค, DHOB ฯลฯ) พยายามสอบถามและยอมรับความเห็นติชมโดยเปิดใจกว้าง ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ดูแลด้านเสื้อผ้าอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอนของการปรับเปลี่ยนเสื้อผ้า แลกเปลี่ยนคำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ปรับเปลี่ยนเสื้อผ้า/เจ้าหน้าที่ปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าฝึกหัดในทีม ช่วยเหลือเพื่อแบ่งเบาภาระงานของเจ้าหน้าที่ปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าคนอื่นๆ ในกรณีที่มีงานมาก แสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนและเต็มใจที่จะเรียนรู้และทำงานร่วมกับผู้อื่น

Chanel (Thailand) Ltd. กำลังเปิดรับสมัครงาน หลายตำแหน่ง อ่านรายละเอียดคุณสมบัติ อัตราเงินเดือน สวัสดิการต่างๆ พร้อมสมัครงานทันที ได้ที่ JOBTOPGUN

Chanel (Thailand) Ltd. เปิดรับสมัครงาน หลายอัตรา | JOBTOPGUN


               รถไฟฟ้า BTS เป็นระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯที่นับว่าครอบคลุมหลายพื้นที่ เชื่อมต่อทั้งในตัวเมืองกรุงเทพฯ สมุทรปราการ และปทุมธานี และยังมีแผนที่จะขยายเส้นทางต่อไปเรื่อย ๆ หลายสายอีกด้วย ทำให้คนที่อาศัยอยู่ชานเมืองเดินทางเข้ามาทำงานในตัวเมืองได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว ไม่ต้องกังวลเรื่องรถติด วันนี้ทาง JOBTOPGUN เลยมีตำแหน่งงานใกล้รถไฟฟ้า BTS ที่น่าสนใจจากบริษัทชั้นนำมาฝาก



บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด



               บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด เป็นผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีก “ถูกดี มีมาตรฐาน” โดยให้บริการเจ้าของร้านโชห่วยที่สนใจเปลี่ยนร้านเดิมให้เป็นร้านที่มีมาตรฐานสากล ครบวงจร มีสำนักงานตั้งอยู่ที่อาคาร 393 ใกล้ BTS ช่องนนทรี พนักงานองค์กรจะได้รับสวัสดิการ อาทิ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันสังคม ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ตรวจสุขภาพประจำปี ชุดยูนิฟอร์ม เงินช่วยเหลือฌาปนกิจ  ค่ายินดีมงคลสมรส โบนัสประจำปี เป็นต้น ใครอยากทำงานใกล้ BTS ตอนนี้ทางบริษัทกำลังรับสมัครพนักงานหลายตำแหน่ง



ตำแหน่งงานที่น่าสนใจ   ? Case Resolution Deputy Division Manager (BTSช่องนนทรี)   ? Case Resolution Executive (ฺBTS ช่องนนทรี)   ? Manpower &amp; Database Administrator



สมัครงานบริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด ในตำแหน่งอื่น ๆ ได้ที่นี่



บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน)



               บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทในเครือของ บริษัทออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในแนวราบและที่พักอาศัย ทางองค์กรให้สวัสดิการแก่พนักงาน อาทิ ค่าน้ำมันรถ ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ โบนัสตามผลงานและผลประกอบการ ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ คอร์สฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และอื่น ๆ อีกมากมาย สำนักงานใกล้ ​BTS บางนา ซึ่งตอนนี้ทางบริษัทกำลังมองหาพนักงานอยู่หลายตำแหน่ง



ตำแหน่งงานที่น่าสนใจ   ? Senior Creative Marketing Officer   ? Senior Digital Marketing   ? Purchasing Officer



สมัครงานบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) ในตำแหน่งอื่น ๆ ได้ที่นี่อ่านรีวิวบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) เพิ่มเติม ได้ที่นี่



บริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)



               บริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมความงาม มีสำนักงานใหญ่ใกล้ BTS เซนต์หลุยส์ และมีสาขาย่อยทั้งในยุโรปและเอเชีย ทางองค์กรให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ความสามารถ และความมุ่งมั่นของพนักงาน พร้อมทั้งให้สวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน สหกรณ์ออมทรัพย์ เงินช่วยเหลือฌาปนกิจ และโบนัสตามผลงาน/ผลประกอบการ/ประจำปี หากใครมองหางานใกล้ BTS ตอนนี้ทางบริษัทกำลังรับสมัครงานอยู่



ตำแหน่งงานที่น่าสนใจ   ? Senior Graphic Designer   ? Sales Co-ordinator (new graduated are welcome)   ? Senior Recruitment Specialist



สมัครงานบริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ในตำแหน่งอื่น ๆ ได้ที่นี่อ่านรีวิวบริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เพิ่มเติม ได้ที่นี่



บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)



               บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำของรัฐที่มีเครือข่ายทั่วทุกภาค มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพทั้ง NPL และ  NPA หากใครต้องการร่วมงานกับองค์กรที่มีความมั่นคง สวัสดิการดี มีการฝึกอบรมบุคลากรอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มทักษะให้เป็นมืออาชีพ ตลอดจนให้การสนับสนุนทุนการศึกษาระดับปริญญาโทให้แก่พนักงานให้มีความก้าวหน้าในวิชาชีพ และออฟฟิศใกล้ BTS สุรศักดิ์ ตอนนี้ทางบริษัทกำลังเปิดรับสมัครงานอยู่หลายตำแหน่ง



ตำแหน่งงานที่น่าสนใจ   ? เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาสินทรัพย์   ? เจ้าหน้าที่ฝ่ายประเมินราคา   ? เจ้าหน้าที่ธุรการ



สมัครงานบริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในตำแหน่งอื่น ๆ ได้ที่นี่อ่านรีวิวบริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เพิ่มเติม ได้ที่นี่               สำหรับคนที่กำลังหางานใกล้รถไฟฟ้า BTS จะเห็นได้ว่ามีตำแหน่งงานใกล้รถไฟฟ้า BTS ที่น่าสนใจมากมาย และมีหลากหลายบริษัทชั้นนำที่ตอนนี้กำลังเปิดรับสมัครพนักงานอยู่ สามารถหางานใกล้รถไฟฟ้า BTS อื่น ๆ ได้ที่นี่  หรืออ่านรีวิวบริษัททั้งหมดได้ที่ www.yousayhrsay.com


สมัครงานใกล้ BTS รวมงานใกล้รถไฟฟ้า


               นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ เป็นโครงการเขตหรือสวนอุตสาหกรรม ที่พร้อมทั้งระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ  มีอยู่ทั้งหมด 9 แห่ง ในจังหวัดชลบุรี ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา และระยอง มีบริษัทชั้นนำและแบรนด์ดังมากมายตั้งโรงงานอยู่ในเขตอุตสาหกรรมโรจนะในพื้นที่เหล่านี้ วันนี้ทาง JOBTOPGUN เลยมีตำแหน่งงานนิคมโรจนะที่หลากหลายและน่าสนใจจากบริษัทชั้นนำมาฝาก



บริษัท นิคอน (ประเทศไทย) จำกัด



               บริษัท นิคอน (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตกล้องและเลนส์ ‘NIKON’ แบรนด์ดังจากญี่ปุ่น ทางองค์กรมอบสวัสดิการต่าง ๆ ให้พนักงาน อาทิ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน ประกันสังคม ประกันสุขภาพ เครื่องแบบพนักงาน รถรับส่ง เงินช่วยเหลือฌาปนกิจ ค่าทำงานล่วงเวลา เบี้ยขยัน ค่าตอบแทนพิเศษ โบนัสประจำปี ค่าทำงานล่วงเวลา หากใครต้องการร่วมงานกับบริษัทญี่ปุ่น ตอนนี้นิคอนกำลังรับสมัครงานประจำโรงงานในนิคมโรจนะ อยุธยาอยู่



ตำแหน่งงานที่น่าสนใจ   ? Purchasing Staff   ? Internal Auditor   ? Mechanical Engineering, Mechatronics Engineering, Electronics Engineering, Electrical Engineering(พระนครศรีอยุธยา)



สมัครงานบริษัท นิคอน (ประเทศไทย) จำกัด ในตำแหน่งอื่น ๆ ได้ที่นี่อ่านรีวิวบริษัท นิคอน (ประเทศไทย) จำกัด เพิ่มเติม ได้ที่นี่



บริษัท เด็นโซ่ เท็น (ประเทศไทย) จำกัด



               บริษัท เด็นโซ่ เท็น (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ภาพและเสียง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ สวัสดิการพนักงานขององค์กรจะมีทั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน ประกันสังคม ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ เครื่องแบบพนักงาน เงินช่วยเหลือฌาปนกิจ ค่าทำงานล่วงเวลา โบนัสตามผลงาน/ผลประกอบการ/ประจำปี ซึ่งตอนนี้ทางบริษัทกำลังมองหาพนักงานในนิคมโรจนะ ระยองอยู่



ตำแหน่งงานที่น่าสนใจ   ? Safety Officer   ? Technician   ? It Support



สมัครงานบริษัท เด็นโซ่ เท็น (ประเทศไทย) จำกัด ในตำแหน่งอื่น ๆ ได้ที่นี่อ่านรีวิวบริษัท เด็นโซ่ เท็น (ประเทศไทย) จำกัด เพิ่มเติม ได้ที่นี่



บริษัท โพรเทเรียล (ไทยแลนด์) จำกัด



               บริษัท โพรเทเรียล (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นบริษัทชั้นนำในการผลิตชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์และผลิตภัณฑ์จากเหล็กหล่อ มีโรงงานตั้งอยู่ที่นิคมโรจนะ อยุธยา พนักงานขององค์กรทุกคนจะได้รับสวัสดิการมากมาย ทั้งเบี้ยขยัน ค่าอาหาร เงินรางวัลประเมินผลงาน ประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ การตรวจสุขภาพประจำปี ค่ารักษาพยาบาล ค่าทำฟัน เงินช่วยเหลือกรณีคลอดบุตร แต่งงาน และเสียชีวิต โบนัสประจำปี รถรับ-ส่ง เครื่องแบบพนักงาน เป็นต้น ซึ่งตอนนี้ทางบริษัทได้เปิดรับสมัครพนักงานอยู่หลายตำแหน่ง



ตำแหน่งงานที่น่าสนใจ   ? Sales Representative (2 ตำแหน่ง)   ? Sales Office Staff / พนักงานประจำสำนักงานการขาย (2 ตำแหน่ง)



สมัครงานบริษัท โพรเทเรียล (ไทยแลนด์) จำกัด ในตำแหน่งอื่น ๆ ได้ที่นี่อ่านรีวิวบริษัท โพรเทเรียล (ไทยแลนด์) จำกัด เพิ่มเติม ได้ที่นี่



บริษัท ฟูรูกาวา ไฟเทล (ประเทศไทย) จำกัด



               บริษัท ฟูรูกาวา ไฟเทล (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ใช้ในระบบสื่อสารใยแก้วนำแสง สวัสดิการพนักงานองค์กรที่จะได้รับจะมีทั้งค่าครองชีพ เบี้ยขยัน ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าทำงานล่วงเวลา กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันสังคม ประกันอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาล การฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน ชุดยูนิฟอร์ม เงินช่วยเหลือฌาปนกิจ โบนัสประจำปี และอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับใครที่ต้องการสมัครงานนิคมโรจนะ ตอนนี้ทางบริษัทกำลังรับสมัครพนักงานอยู่



ตำแหน่งงานที่น่าสนใจ   ? Engineer (Process/QA)   ? Software Engineer (Programmer)



สมัครงานบริษัท ฟูรูกาวา ไฟเทล (ประเทศไทย) จำกัด ในตำแหน่งอื่น ๆ ได้ที่นี่



               สำหรับคนที่กำลังหางานนิคมโรจนะ จะเห็นได้ว่ามีตำแหน่งงานที่น่าสนใจมากมายในนิคมโรจนะ และมีหลากหลายบริษัทใหญ่ชั้นนำที่ตอนนี้กำลังเปิดรับสมัครอยู่ สามารถหางานนิคมโรจนะอื่น ๆ ได้ ที่นี่  หรืออ่านรีวิวบริษัททั้งหมดได้ที่ www.yousayhrsay.com


หางานนิคมโรจนะ รวมงานน่าสนใจหลากหลายตำแหน่ง


             เรียกว่าเป็นคำยอดนิยมในระยะเวลา 4-5 ปี ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในยุคหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สำหรับ “Upskill” และ “Reskill” ซึ่งได้รับการพูดถึงเป็นวงกว้างในแวดวงคนทำงานและองค์กรธุรกิจต่าง ๆ หลายคนอาจจะคุ้นเคยหรือคุ้นหูคุ้นตาว่า หมายถึงการที่เหล่าคนทำงานต้องพัฒนาและปรับตัวให้ทันความเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคดิจิทัลที่ระบบการทำงานต่าง ๆ เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แต่หากใครยังสับสนกันอยู่ เราจะพาไปทำความรู้จักและค้นหากับ “Upskill และ Reskill แตกต่างกันอย่างไร? สิ่งที่คนทำงานควรรู้” เพื่อให้การทำงานในยุค Digital 4.0 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพให้มากที่สุด







ทำความรู้จักและค้นหาความแตกต่างของ “Upskill” และ “Reskill”



             คำว่า “Upskill” หมายถึง “การพัฒนาและยกระดับทักษะเดิม” กล่าวคือเป็นการเรียนรู้ทักษะเดิมหรือเสริมทักษะใหม่ที่ไม่เคยรู้มาก่อนในสายงานของตัวเอง ซึ่งจะทำให้คนทำงานเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างผลงานให้ออกมาได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับความสามารถและความก้าวหน้าให้องค์กรต่อไปในโลกแห่งอนาคต             ส่วนคำว่า “Reskill” หมายถึง “การเพิ่มเติมทักษะใหม่” เป็นการยกระดับทักษะความสามารถของคนทำงานในสายงานที่แตกต่างจากเดิม หรือพูดง่าย ๆ ว่า เรียนรู้ทักษะที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงในโลกแห่งเทคโนโลยี พร้อมทั้งสามารถปรับตัวเข้ากับความต้องการขององค์กรและตลาดแรงงาน ซึ่งจะสร้างโอกาสในการยกระดับหรือเปลี่ยนแปลงโยกย้ายไปสู่สายงานที่ต่างออกไปอีกด้วย             โดย “ความแตกต่าง” ของการ “Upskill” และ “Reskill” หากเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ตัวอย่างเช่น การอัพสกิลของพนักงานตรวจสอบคลังสินค้าด้วยการเรียนและนำเทคโนโลยีดิจิทัลหรือ AI มาใช้ในการบริหารจัดการสต๊อกสินค้าให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกสบายมากขึ้น ลดภาระการทำงานที่ซ้ำซ้อน เป็นต้น ในขณะที่การรีสกิลคือ การเปิดคอร์สสอนให้ความรู้ในด้านอื่น ๆ เช่น ช่างเทคนิค งานไอที หรือการเขียนซอฟต์แวร์ให้กับพนักงานคลังสินค้าที่มีศักยภาพให้สามารถยกระดับความรู้และโยกย้ายไปสู่ตำแหน่งงานอื่น ๆ ที่มีความก้าวหน้ามากขึ้นไปพร้อมกัน







ทำไมคนทำงานต้องเรียนรู้และอัพสกิลทักษะใหม่?



             คำตอบง่าย ๆ คือ เพราะยิ่งการพัฒนาทางเทคโนโลยีต่าง ๆ ก้าวหน้าไปมากเท่าไหร่ โลกธุรกิจและการทำงานก็ยิ่งเติบโต เปลี่ยนแปลง และเต็มไปด้วยการแข่งขันสูงมากเท่านั้น โดยเฉพาะหลังจากวิกฤติโควิด-19 ซึ่งเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีแห่งการทำงานของคนในยุคนี้ไปอย่างมาก การพัฒนาและเพิ่มเติมทักษะต่าง ๆ ก็กลายเป็นความจำเป็นของคนทำงานแทบทุกสายงาน ประกอบกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลในทุกวันนี้ รวมไปถึงการนำหุ่นยนต์หรือปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในระบบการทำงานอย่างกว้างขวาง เหล่ามนุษย์เงินเดือนหรือเด็กจบใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้ามาให้โลกการทำงานก็ยิ่งต้อง “Upskill” และ “Reskill” ตัวเองอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ความสามารถของเราถูกทดแทนได้ด้วยระบบเทคโนโลยี และสามารถปรับตัวได้ทันต่อความต้องการใหม่ ๆ ในตลาดแรงงานได้อย่างมั่นคงต่อไป







“Upskill” และ “Reskill” แบบไหนมีประโยชน์กับการทำงานในยุคนี้?



             ทำความเข้าใจกับคำว่า “Upskill” และ “Reskill” ใครกำลังไม่แน่ใจว่า แล้วเราควรจะพัฒนาทักษะของตัวเองในด้านใดบ้าง เรารวบรวมทักษะความสามารถที่จำเป็นและนำไปประยุกต์ใช้ในโลกการทำงานทุกวันนี้มาให้ ลองมาดูกันว่า เรามีทักษะเหล่านี้แล้วหรือยัง?



          ?   ทักษะทางด้านเทคโนโลยี                       เรียกได้ว่าเป็นทักษะสำคัญของยุคนี้ที่คนทำงานต้องมี เพราะนี่คือโลกแห่งเทคโนโลยีดิจิทัลที่ก้าวรุดหน้าไปอย่างไม่รั้งรอใคร คนที่สามารถนำเครื่องมือดิจิทัลและโปรแกรมต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ในการทำงานให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจและติดตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลาจะกลายเป็นข้อได้เปรียบในการทำงานแทบทุกสายอาชีพก็ว่าได้          ?   ทักษะทางด้านการใช้ข้อมูล              นอกจากความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลแล้ว องค์กรธุรกิจต่างๆ ยังให้ความสำคัญการข้อมูล (Data) ต่าง ๆ อีกด้วย คนที่อ่าน เข้าใจ หรือสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าต้องมีทักษะในระดับนักวิเคราะห์ข้อมูลมืออาชีพ แต่สามารถทำงานด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ในสายงานของเราได้นั่นเอง          ?   ทักษะทางด้านภาษา              ไม่ว่าจะเป็นยุคไหน ทักษะทางด้านภาษาก็ยังคงเป็นทักษะสำคัญอยู่เสมอ เพราะในหลากหลายสาขาอาชีพเกือบทุกการทำงานต้องมีการติดต่อสื่อสารกับผู้คนทั่วโลกอยู่ตลอดเวลา นอกจากการอัพสกิลการใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่มีความต้องเป็นพื้นฐาน การรีสกิลเรียนรู้และเพิ่มทักษะภาษาที่สามยังช่วยให้เราได้เปรียบและมีโอกาสเลือกงานที่ตรงใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย          ?   ทักษะด้านการบริหารจัดการ                       ในโลกที่เวลาหมุนไปอย่างรวดเร็วในแต่ละวัน คนที่มีความสามารถในการบริหารจัดการต่าง ๆ ย่อมเป็นที่ต้องการจากแทบทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการบริหารระบบงาน บริหารเวลา ไปจนถึงการบริหารทรัพยากรบุคคล ซึ่งจะช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ คนที่เก่งในการบริหารจัดการจะสามารถแยกแยะและลำดับความสำคัญของงานได้ดี พร้อมรับมือกับปัญหา และมีทักษะในการดำเนินการงานต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี 



              อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ของคนที่พร้อม “Upskill” และ “Reskill” คือ ทักษะในการยืดหยุ่นและปรับตัวกับทุกสถานการณ์ คนที่มีความสามารถด้านนี้จะพร้อมเผชิญหน้ากับความท้าทายและความเปลี่ยนแปลง รวมทั้งพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเองและองค์กรควบคู่กันต่อไปในอนาคต



              ได้เวลา “Upskill” และ “Reskill” กันให้พร้อม แล้วลองเข้าไปหาค้นหาตำแหน่งงานดี ๆ ได้ที่ www.jobtopgun.com หรือไปอ่านรีวิวบริษัทชั้นนำต่าง ๆ ที่เปิดโอกาสให้เราพัฒนาทักษะเหล่านี้ได้ที่ www.yousayhrsay.com


Upskill และ Reskill แตกต่างกันอย่างไร? สิ่งที่คนทำงานควรรู้


&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับเหล่าบัณฑิตจบใหม่ หลายคนคงรู้สึกว่ากว่าเรียนจบมาได้ก็ต้องผ่านความเหนื่อยยาก ลำบาก และท้าทาย ทั้งกายทั้งใจกันมาสุด ๆ ด่านต่อไปที่โหดหินยิ่งกว่า ซึ่งแทบทุกคนต้องเจอก็คือ “การหางาน” และที่สำคัญคือจะเป็นงานแรกในชีวิต หลายคนเกิดอาการกังวลว่า การหางานที่ใช่สำหรับตัวเองอาจเป็นเรื่องยากและไกลเกินฝัน ทั้งความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่น้อยกว่าคนทำงานที่เจนสนามแล้ว แต่อย่าเพิ่งหมดความมั่นใจเกินไป เพราะเรารวบรวม “5 ข้อควรทำ หางาน ได้งาน ฉบับเด็กจบใหม่” ที่จะช่วยให้การสมัครงานครั้งแรกผ่านฉลุยได้ง่ายกว่าที่คิด







5 ข้อควรทำเพื่อ “หางานที่ใช่ ได้งานที่ชอบ” ฉบับเด็กจบใหม่



&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1) &nbsp;&nbsp;รู้จักตัวเองและวางเป้าหมายในการทำงาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับคำที่มักได้ยินอยู่เสมอ แต่ขอบอกเลยว่าไม่ว่าจะเป็นวัยไหนหรือทำงานมานานเท่าไหร่ การ “รู้จักตัวเอง” ยังคงเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกในการวางแผนชีวิตและการทำงานต่าง ๆ&nbsp; โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ ซึ่งการเลือกงานที่ตรงกับความชอบ ความถนัด และเหมาะกับไลฟ์สไตล์จะช่วยให้การหางานที่ใช่เป็นไปตามที่หวังมากยิ่งขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในระหว่างช่วงเรียนจบใหม่ ๆ ลองหาเวลาสังเกตและวิเคราะห์ตัวตนของเราว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร มีความถนัดด้านใดบ้าง จุดอ่อนจุดแข็ง ข้อดีข้อด้อยของเราเป็นอย่างไร ไปจนถึงมีไลฟ์สไตล์และใช้ชีวิตประจำวันแบบไหน การรู้จักตัวเองดีพอจะช่วยให้เราค้นพบงานที่ใช่ในชีวิตมากขึ้น แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือถนัดอะไร แนะนำให้ลองทำแบบทดสอบบุคลิกภาพ หรือแบบประเมินความสามารถทางวิชาชีพในเว็บไซต์ออนไลน์ต่าง ๆ หรืออาจจะลองหากิจกรรม งานอดิเรกต่าง ๆ ที่ทำให้ใช้เวลาอย่างมีความสุข เพื่อค้นพบว่าจริง ๆ แล้วเราต้องการอะไร (ในชีวิตวัยทำงานที่จะมาถึง)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ อย่าลืมลองตั้ง “เป้าหมายในการทำงาน” ว่าเราอยากไปให้ถึงในจุดไหน หรือลองคิดว่าหากเราเลือกทำงานตำแหน่งนี้ เนื้อหา หน้าที่ การพัฒนาความสามารถ และโอกาสการเจริญเติบโตในสายงานนั้นเป็นไปตามที่เราคาดหวังมากน้อยแค่ไหน หาโอกาสศึกษาหาข้อมูลของงานนั้น ๆ เพิ่มเติม เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น การได้ทำงานในฝันจะยิ่งเข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นไปด้วย



&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 2) &nbsp;&nbsp;เพิ่มทักษะความสามารถให้พร้อม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อเรารู้จักตัวเอง และรู้ว่างานที่ใช่ของเราคืออะไรแล้ว ขั้นต่อไปคือ การ “เพิ่มทักษะความสามารถ” นอกเหนือจากวุฒิการศึกษาให้มากขึ้นหรือมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พูดง่าย ๆ ว่า พยายามฝึกและอัพสกิลต่าง ๆ ที่จำเป็นหรือควรจะมีในการทำงานนั้น ๆ ให้พร้อม เพื่อเพิ่มทักษะพิเศษ สร้างความโดดเด่นในการสมัครงาน ยิ่งในฐานะเด็กจบใหม่ที่มักจะไม่มีประสบการณ์ทำงานมาเสริมความน่าเชื่อถือ การมีความสามารถหรือทักษะพิเศษที่มีประโยชน์จะช่วยให้เราเข้าใกล้กับงานที่ใช่ได้มากกว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราอยากเป็น Content Creator นอกจากทักษะการเขียน การเรียบเรียงคอนเทนต์จะสำคัญแล้ว การมีทักษะเสริม ไม่ว่าจะเป็นถ่ายภาพ ทำงานกราฟิก ตัดต่อวิดีโอ ไปจนถึงความรู้ทางด้านการตลาดต่าง ๆ ก็ยิ่งทำให้โพรไฟล์ของเราน่าประทับใจมากขึ้นไปด้วย







&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 3) &nbsp;&nbsp;หาโอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไว้ก่อน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในช่วงที่กำลังหางาน หากมีโอกาสลอง “เก็บเกี่ยวประสบการณ์” ในสายงานที่เราชอบไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นการฝึกงาน การทำงานพาร์ตไทม์ หรือการรับงานฟรีแสนซ์เป็นชิ้น ๆ ไป เพื่อสร้างโอกาสการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะการทำงานต่าง ๆ ในสนามจริง ซึ่งจะเป็นประโยชน์และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงานในอนาคตต่อไปได้ไม่มากก็น้อย ที่สำคัญประสบการณ์เหล่านี้ยังเปรียบเสมือนสิ่งที่การันตีความรู้ ความสามารถ และหน้าที่ความรับผิดชอบในการทำงาน ซึ่งจะเป็นผลงานสำคัญที่ปรากฏอยู่ในเรซูเม่และพอร์ตโฟลิโอให้โดดเด่นและน่าสนใจ นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มรายได้และเป็นการใช้เวลาอย่างมีประโยชน์ในระหว่างที่กำลังรอสมัครงานอีกด้วย



&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 4) &nbsp;&nbsp;ศึกษาข้อมูลและวัฒนธรรมองค์กรให้มากที่สุด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่ออัพเดตตัวเราในทุก ๆ ด้านแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ ควร “ศึกษาข้อมูลและทำความรู้จักวัฒนธรรมองค์กร” ของบริษัทที่เราอยากทำงานด้วยไว้ให้มากที่สุด เพื่อดูว่าเป้าหมายและทัศนคติขององค์กรสอดคล้องไปในแนวทางเดียวกับเรามากน้อยแค่ไหน รวมทั้งลักษณะและเนื้อหาของงาน ขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบ ไปจนถึงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ของงานว่าเราพร้อมจะรับมือหรือไม่ เพราะบางครั้งแม้จะเป็นสายงานที่ตรงใจ แต่หากต้องไปอยู่ในองค์กรที่ไม่เป็นมิตรกับไลฟ์สไตล์หรือสวัสดิภาพของพนักงาน งานที่ใช่ก็อาจกลายเป็นฝันร้ายได้เหมือนกัน แนะนำให้ลองเข้าไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตหรือสื่อโซเชียลต่าง ๆ ขององค์กรที่เราอยากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง หรือหาข้อมูลจากเว็บไซต์หางานที่มาพร้อมรีวิวการทำงานของพนักงานจริง ๆ เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจ



&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 5) &nbsp;&nbsp;ทำเรซูเม่ให้โดดเด่นและเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อเลือกงานที่ใช่และองค์กรที่ชอบกันแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายก่อนยื่นสมัครงาน (ที่สำคัญไม่แพ้กัน) คือ การ “ทำเรซูเม่ให้โดดเด่น” และการ “เตรียมตัวสัมภาษณ์” ให้พร้อมอยู่เสมอ เพราะนี่การสร้างความประทับใจแรกให้กับฝ่ายบุคคลและองค์กรได้ทำความรู้จักเรา เรซูเม่ที่ดีควรการเขียนให้สั้น กระชับ ชัดเจน อ่านง่าย โชว์ผลงาน ทักษะความสามารถต่าง ๆ ตรงกับสิ่งที่องค์กรต้องการหรือสอดคล้องกับตำแหน่งที่สมัคร สำหรับการเตรียมตัวสัมภาษณ์งานให้ลองเริ่มจากเตรียมเอกสารที่จำเป็นต่าง ๆ ให้ครบถ้วนไว้เลย เพื่อให้พร้อมในทุกสถานการณ์ ฝึกตอบคำถาม พูดคุยโต้ตอบด้วยความมั่นใจ อย่าลืมฝึกภาษาอังกฤษหรือภาษาที่สามควบคู่ไปด้วยถ้าจำเป็นต้องใช้ในการทำงาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หากเราเตรียมตัวให้พร้อมไว้ทั้ง 5 ข้อ นี้ได้ การ “หางานที่ใช่ ได้งานที่ชอบ” ของเหล่าเด็บจบใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน







&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เด็กจบใหม่เตรียมตัวให้พร้อมไว้ แล้วเข้าไปค้นหางานดีๆ มากมายจากหลากหลายสาขาอาชีพได้ที่ www.jobtopgun.com หรือไปอ่านรีวิวบริษัทชั้นนำต่าง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ที่ www.yousayhrsay.com


5 ข้อควรทำ หางาน ได้งาน ฉบับเด็กจบใหม่


สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (สำนักงาน กกต.)&nbsp;เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุเป็นพนักงาน จำนวน 215 อัตรา รับสมัครทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ - 15 มีนาคม 2564



ประกาศสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง การรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำปี พ.ศ. 2564



ตำแหน่งที่เปิดรับสมัครสอบ1. ตำแหน่ง พนักงานการเลือกตั้งปฏิบัติการจํานวนอัตราว่าง 74 อัตราอัตราเงินเดือน 19,500 บาทคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ และต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับปริญญาตรี ขึ้นไป



2. ตำแหน่ง พนักงานสืบสวนและไต่สวนปฏิบัติการจํานวนอัตราว่าง 54 อัตราอัตราเงินเดือน 19,500 บาทคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีนิติศาสตร์ และต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับปริญญาตรีขึ้นไป



3. ตำแหน่ง นิติกรปฏิบัติการจํานวนอัตราว่าง 16 อัตราอัตราเงินเดือน 19,500 บาทคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีนิติศาสตร์ และต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับปริญญาตรี ขึ้นไป



4. ตำแหน่ง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการจํานวนอัตราว่าง 4 อัตราอัตราเงินเดือน 19,500 บาทคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การบริหาร (หรือการจัดการ) และต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับปริญญาตรี ขึ้นไป



5. ตำแหน่ง นักทรัพยากรบุคคลปฏิบัติการจํานวนอัตราว่าง 4 อัตราอัตราเงินเดือน 19,500 บาทคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ การบริหาร (หรือการจัดการ) และต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับปริญญาตรี ขึ้นไป



6. ตำแหน่ง นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการจํานวนอัตราว่าง 21 อัตราอัตราเงินเดือน 19,500 บาทคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ การบริหาร (หรือการจัดการ) และต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับปริญญาตรี ขึ้นไป



7. ตำแหน่ง นักวิชาการตรวจสอบภายในปฏิบัติการจํานวนอัตราว่าง 3 อัตราอัตราเงินเดือน 19,500 บาทคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในสาขาวิชาการบัญชี สาขาวิชาบริหารธุรกิจ หรือสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ และต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับปริญญาตรี ขึ้นไป



8. ตำแหน่ง นักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการจํานวนอัตราว่าง 9 อัตราอัตราเงินเดือน 19,500 บาทคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชาการบัญชี สาขาวิชาบริหารธุรกิจ หรือสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ และต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับปริญญาตรี ขึ้นไป



9. ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการจํานวนอัตราว่าง 2 อัตราอัตราเงินเดือน 19,500 บาทคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี นิเทศศาสตร์ การประชาสัมพันธ์ และต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับปริญญาตรี ขึ้นไป



10. ตำแหน่ง นักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการจํานวนอัตราว่าง 1 อัตราอัตราเงินเดือน 19,500 บาทคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีทางภาษาอังกฤษ และต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับปริญญาตรี ขึ้นไป



11. ตำแหน่ง นักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการจํานวนอัตราว่าง 4 อัตราอัตราเงินเดือน 19,500 บาทคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี วิทยาการคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ วิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์ และต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับปริญญาตรี ขึ้นไป



12. ตำแหน่ง นักวิชาการพัสดุปฏิบัติการจํานวนอัตราว่าง 1 อัตราอัตราเงินเดือน 19,500 บาทคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีทุกสาขา และต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับปริญญาตรี ขึ้นไป



13.&nbsp; ตำแหน่ง เจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงานจํานวนอัตราว่าง 20 อัตราอัตราเงินเดือน 11,300 บาทคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ทุกสาขา และต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ขึ้นไป



14.&nbsp; ตำแหน่ง เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีปฏิบัติงานจํานวนอัตราว่าง 2 อัตราอัตราเงินเดือน 11,300 บาทคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ในสาขาวิชาหรือทางการบัญชี การบริหารธุรกิจ การเงินและการธนาคาร และต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ขึ้นไป



การรับสมัครสอบผู้ประสงค์จะสมัครสอบ สมัครได้ทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ - 15 มีนาคม 2564 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ ที่เว็บไซต์&nbsp;https://ect.thaijobjob.com/


สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (สำนักงาน กกต.) รับสมัครสอบเพื่อบรรจุเป็นพนักงาน 215 อัตรา ถึง 15 มี.ค. 64


สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม&nbsp;เปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ จำนวน 103 อัตรา รับสมัครทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม 2564



ประกาศสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เรื่อง รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ



ตำแหน่งที่เปิดรับสมัครสอบ1. ตำแหน่ง นักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการเงินเดือน 15000-16500 บาทจำนวน 8 อัตราคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชาการบัญชีสาขาวิชาบริหารธุรกิจ หรือสาขาวิชาทางเศรษฐศาสตร์ และเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับปริญญาตรีขึ้นไป



2. ตำแหน่ง นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการเงินเดือน 15000-16500 บาทจำนวน 25 อัตราคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันทุกสาขาวิชา และเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับปริญญาตรีขึ้นไป



3. ตำแหน่ง นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการเงินเดือน 15000-16500 บาทจำนวน 70 อัตราคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันทุกสาขาวิชา และเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก) ของสำนักงาน ก.พ. ระดับปริญญาตรีขึ้นไป



การรับสมัครสอบให้ผู้ประสงค์จะสมัครสอบ สมัครได้ทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม 2564 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ ที่เว็บไซต์&nbsp;https://m-culture.thaijobjob.com/


สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม รับสมัครสอบเพื่อบรรจุเข้ารับราชการ 103 อัตรา  ถึง  4 มี.ค. 64






               อาจฟังดูเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับหลาย ๆ คนเมื่อพูดถึงเป้าหมายในชีวิตเพราะเราไม่เคยถูกตั้งคำถามแบบนี้มาก่อน แต่เมื่อเราเดินทางผ่านสูตรสำเร็จของชีวิตมาแล้ว นั่นคือเรียนจบ เข้ามหาลัย รับปริญญา และหางานทำ เป้าหมายนี่แหละที่จะสร้างความหมายให้กับชีวิตของตัวเองในสเต็ปถัดไป เพื่อที่จะช่วยให้คุณค้นพบว่าชีวิตของคุณมีเพื่ออะไร ต้องการอะไร วันนี้ พวกเราขอพาคุณไปถอดรหัสวิธีการตั้งเป้าหมายของบุคคลที่ประสบความสำเร็จทั้งในไทยและต่างประเทศ มีวิธีอะไรบ้าง มาดูกัน!







ถามตัวเองว่า “ทำไม”               แม้ว่าแนวคิดที่พวกเรากำลังจะแชร์ต่อไปนี้ไม่ใช่วิธีการตั้งเป้าหมายในชีวิตโดยตรงของ คุณเคน นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการและบรรณาธิการบริหาร สำนักข่าวออนไลน์ของคนรุ่นใหม่ The Standard และผู้จัดพอดแคสต์ The Secret Sauce แต่ก็เป็นวิธีการที่ช่วยให้คุณได้สำรวจเป้าหมายของตัวเองมากขึ้น คำถามว่า “ทำไม” เป็นวิธีการสัมภาษณ์คนให้เข้ามาร่วมงานของเขา โดยที่จะประกอบไปด้วยคำถาม 3 คำถามหลัก ๆ              ?  ทำไมคุณถึงอยากทำงานที่นี่              ?  งานที่คุณกำลังทำอยู่นี้ ทำไปทำไม              ?  ทำไมเราต้องรับคุณเข้าทำงาน               นั่นก็เพราะว่าคุณเคนไม่ได้ต้องการคนที่มาร่วมงานกับเขาเพราะความสามารถอย่างเดียวเท่านั้น เขาต้องการคนที่มีเจตนารมณ์ ความเชื่อ เป้าหมาย และศรัทธาในสิ่งเดียวกัน ในขณะเดียวกัน คำถามเหล่านี้ก็เป็นคำถามที่ทำให้เราได้กลับมาสำรวจตัวเองอีกครั้งว่าสิ่งที่เรามุ่งมั่นว่าจะทำในชีวิตหลังจากนี้คืออะไร เพื่ออะไร และแม้ว่าคุณเคนจะเป็นคนถามคำถามเหล่านี้เอง เขาก็เป็นคนที่ตอบคำถามเองด้วยเรื่อย ๆ เช่นกัน เพื่อเป็นเครื่องยืนยันกับตัวเองว่าเป้าหมายของเขาเป็นอย่างไร และที่สำคัญ ทำไมเขาถึงรักงานที่เขาทำ







ตั้งเป้าหมายบ่อย ๆ               เจ้าพ่อวงการนวัตกรรมของโลกและผู้สร้างความสำเร็จให้กับบริษัท Apple อย่าง Steve Jobs นั้นก็มีวิธีการตั้งเป้าหมายในชีวิตที่น่าสนใจ ในช่วงที่เขามีชีวิตอยู่ เขาจะตั้งเป้าหมายเรื่อย ๆ ตลอดการเดินทางในชีวิตของเขา โดยจะมีการตั้งเป้าหมายทั้งระยะสั้นและระยะยาว เป้าหมายทั้ง 2 ระยะล้วนให้ความหมายแก่ชีวิตของเขาดังนี้              ?  เป้าหมายระยะยาว ช่วยให้เขามองเห็นทิศทางที่ต้องมุ่งหน้าไป              ?  เป้าหมายระยะสั้นและหลักกิโลเมตรของชีวิต (Milestone) ช่วยให้เขามองเห็นได้                 ว่าเหตุการณ์ใดบ้างคือเหตุการณ์สำคัญที่ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนความคิดของเขาให้                 กลายเป็นความจริง คอยบอกเขาว่ากำลังเข้าใกล้จุดหมายปลายทางแล้ว และทำให้                 เขาไม่หลงทางด้วย               การมีเป้าหมายทั้ง 2 ระยะช่วยเขาในการวางกลยุทธ์เพื่อที่จะไปถึงฝั่งฝัน โดยจะมีการตั้งเป้าหมายระยะสั้นเรื่อย ๆ เป็นกิจวัตร สั้นระดับรายวันก็มี เพื่อทำให้เป้าหมายระยะยาวที่ดูแสนไกลนั้นเป็นไปได้จริง







มุ่งมั่นในเป้าหมายของตัวเอง               Jack Ma ผู้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีและ e-commerce ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Alibaba มีปรัชญาสำหรับการตั้งเป้าหมายในชีวิตที่จริงจังและไม่สั่นคลอน นั่นก็คือการโฟกัสที่เป้าหมายทุกครั้งที่เป็นไปได้ ไม่ว่าอะไรจะเข้ามาในชีวิต ต้องกลับมาโฟกัสที่เป้าหมายให้ได้ สิ่งที่สามารถช่วยให้เรามุ่งมั่นไปกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้มีทั้ง              ?  ความเพียรพยายาม ไม่ย่อท้อแม้จะมีอุปสรรคเข้ามาอย่างต่อเนื่อง              ?  ความทุ่มเท ใช้พลังทั้งหมดที่มีไปกับเป้าหมายและหนทางที่ปูสู่มัน              ?  การกลับมาตั้งหลักที่เป้าหมายได้แม้จะถูกหันเหความสนใจไปบ้างก็ตาม              ?  การปฏิเสธโอกาสบางอย่างที่ดึงเราออกจากเป้าหมายของตัวเอง



               ในส่วนของการทำให้ความมุ่งมั่นนั้นกลายเป็นความสำเร็จ คำตอบนั่นก็คือการลงมือทำ ถ้าในวันนั้น Jack Ma มองเห็นโอกาสของโลกอินเตอร์เน็ตแต่ไม่เริ่มก่อตั้งบริษัทขึ้นมา เขาก็คงไม่ได้ครอบครองความสำเร็จในวันนี้







ทำให้สำเร็จ ไม่ใช่แค่เสร็จ                ในหลาย ๆ ครั้ง การเอาชนะเป้าหมายในชีวิตนั้นต้องผ่านบททดสอบที่แสนสาหัสจนอาจทำให้หลายคนท้อและยุติความพยายามเมื่อถึงจุดหนึ่ง เหมือนเป็นการ “ทำให้เสร็จ” ไปเฉย ๆ แต่สำหรับ คุณโจ้ ธนา เธียรอัจฉริยะ ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และตำแหน่งระดับสูงของบริษัทมากมาย สิ่งที่เขาโฟกัสคือการ “ทำให้สำเร็จ” ความแตกต่างระหว่าง “เสร็จ” กับ “สำเร็จ” ก็คือ              ?  “เสร็จ” เป็นการแคร์แค่ความรับผิดชอบในส่วนของตัวเองเท่านั้น ไม่ได้สนใจ                 ภาพรวมของสิ่งที่ตัวเองเกี่ยวข้องหรือคุณภาพของการกระทำนั้น              ?  “สำเร็จ” เป็นการทำให้มั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองดำเนินการไปนั้นเรียบร้อยดี ครบถ้วน                 สมบูรณ์ในทุกมิติ แม้จะไม่ใช่หน้าที่หรือเกินสโคปของความรับผิดชอบของตัวเอง                 ก็ตาม



               การไปถึงเป้าหมายนั้นไม่ได้วัดกันที่ความสามารถเพียว ๆ แต่วัดกันที่ทัศนคติด้วยว่าคุณมองเป้าหมายของคุณแค่ “ทำให้เสร็จ” หรือ “ทำให้สำเร็จ” คุณโจ้ได้กล่าวไว้ว่าคนที่มีความสามารถระดับกลาง ๆ แต่มีทัศนคติของความสำเร็จสามารถเอาชนะคนเก่ง ๆ ที่ทำอะไรแค่ให้เสร็จมาเยอะแล้ว



             เป้าหมายในชีวิตไม่ใช่สิ่งที่คุณจะค้นพบได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง คุณจำเป็นต้องผ่านประสบการณ์ที่ทัชกับคุณก่อนถึงจะรู้ว่ามันคือสิ่งที่คุณตามหาอยู่ เปิดประสบการณ์การทำงานที่หลากหลายเพื่อค้นหาเป้าหมายของชีวิตคุณได้ที่ www.jobtopgun.com เว็บไซต์ที่รวบรวมงานมากกว่า 5,000 ตำแหน่ง รวมถึงสามารถอ่านรีวิวบรรยากาศการทำงาน สวัสดิการ และอื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจสมัครงานของคุณได้ทางเว็บไซต์ www.yousayhrsay.com


Key to success! ถอดรหัส 'วิธีการตั้งเป้าหมายในชีวิต' ที่คนประสบความสำเร็จมักทำกัน


&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;      &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;      เคยสังเกตบ้างไหมว่าทำไมผู้นำบางคนแค่เพียงเอ่ยถึงปัญหาหรือความกังวลที่เขามี ทุกคนที่อยู่รอบข้างก็ไม่รีรอที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเขา แต่ในขณะที่ผู้นำอีกคนหนึ่งเพียงขอความร่วมมือก็ไม่ได้รับความร่วมมือ ถูกตั้งคำถามและสร้างความท้าทายอย่างไม่หยุดหย่อน นั่นเป็นเพราะผู้นำแบบที่สองไม่ได้ทำตัวให้เพื่อนร่วมงาน หรือลูกน้องน่าสนับสนุนหรือไว้วางใจนั่นเอง ส่วนเทคนิคในการทำให้เป็นผู้นำที่โดดเด่นเติบโตได้อย่างก้าวไกลนั้นต้องทำอย่างไร บทความนี้มีคำชี้แนะให้แล้วครับ



การจะยิ่งใหญ่ไม่ใช่คุณยกหางตัวเอง
คนอื่นต่างหากที่ยกคุณขึ้นมา



&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;      &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;      หากคุณยังไม่เจ้าใจ concept ของการให้เครดิตคนอื่น หากจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ ได้แก่ เวลาจะนำเสนองานสักชิ้นที่มีงานสร้างสรรค์ แทนที่คุณจะบอกว่าผมทำเองหมดเลยครับ แต่ควรจะบอกว่าอันนี้นะครับเป็นผลงานที่เกิดจากความร่วมมือของคนนั้นคนนี้ คนที่ถูกชม ถูกยกย่องก็จะรู้สึกยินดี ปลื้มปิติ และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการไว้วางใจจากเจ้านาย เขาก็จะนับถือว่าคุณเป็นนายที่ดี เขาถึงมีผลงานเป็นที่ยอมรับในวันนี้ได้ ดังนั้น การเป็นผู้นำคนนั้น ต้องเป็นเรื่องที่ถูก support จากลูกน้องทั่วทุกสารทิศจึงจะถือว่าเป็นนายที่ดี ต่อจากนี้ หากคุณขอความร่วมมือจากลูกน้องเมื่อไหร่ แน่นอนว่ามักจะได้รับความร่วมมือจากลูกน้องได้ทุกครั้ง ดังนั้น อยากเป็นผู้นำที่โดดเด่นและยิ่งใหญ่ ต้องไม่ลืมว่า&nbsp; “We rise by lifting others” ครับ


ผู้นำที่โดดเด่นต้องเกิดจากการ support จากทั่วทุกสารทิศ



สามก๊กตอนที่ 1 เป็นเรื่องราวของจุดเริ่มต้นวีรบุรุษ สามก๊ก เริ่มจากการที่เล่าปี่ กวนอูและเตียวหุย ได้มีโอกาสพบกันที่ร้านสุราแห่งหนึ่งในเมืองตุ้นกวน โดยที่ทั้งสามคน มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคืออาสาแผ่นดินเพื่อจับโจรโพกผ้าเหลือง จึงชวนกันไปยังบ้านเตียวหุยเพื่อร่วมคำสัตย์สาบาน ตั้งแต่นั้น ผู้กล้าทั้งสามก็นับถือกันเป็นพี่น้อง โดยมีเล่าปี่เป็นพี่ใหญ่ กวนอูเป็นน้องกลางและเตียวหุยเป็นน้องเล็ก

ทางทีมงาน JOBTOPGUN จึงอยากจะร่วมแบ่งปันความสนุก ประสบการณ์ในการสัมมนาว่าผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้สิ่งดีๆ และมีประโยชน์ที่จะเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไรกันบ้าง ซึ่งเราขอยกตัวอย่างมาแชร์ให้เพื่อนๆกันค่ะ
ตัวอย่างที่ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้จากการสัมมนา



เรียนรู้เรื่องความเป็นนายจากเล่าปี่

ทำให้เราต้องมี review ตัวเองในเรื่อง Leadership อีกครั้ง ซึ่งนอกจากที่เราก็สามารถเรียนรู้ในส่วนนี้ เราสามารถนำไปสอนเรื่องความเป็นนายให้กับลูกน้องได้เพิ่มเติมอีกด้วย คือ

 	เรายังต้องมี Vision ที่เหนือกว่าลูกน้อง เพื่อทำให้ลูกน้องนับถืออยู่ตลอด
 	ต้องพัฒนาเรื่อง Vision ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนรู้จากนาย หรือเรื่องการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ต้องไม่ให้ขาด ซึ่งก็ต้องผลักดันลูกน้องให้มี Vision เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลาด้วย
 	การบริหารการจัดการลูกน้องเป็นแบบพี่น้อง
 	เราต้องมองลูกน้องในทุกระดับให้เป็นเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน จะทำให้วิธีในการที่เราจัดการลูกน้องจะออกมาเอง ดูตัวอย่างจากส่ิงที่นายจัดการกับลูกน้อง แล้วทำตาม เช่นความเสียสละ หรือความ Good at heart ของนายกับทุกคน
 	ความเมตตาที่ยิ่งใหญ่ เมื่อลูกน้องทำพลาด แบบเตียวหุยทำให้เล่าปี่หลุดจากตำแหน่งนายอำเภอ ก็ไม่ถือโกรธโทษลูกน้อง
 	ทำให้เวลาที่ลูกน้องทำอะไรผิดพลาด เราต้องเข้าใจลูกน้องให้ได้เหมือนเล่าปี่เข้าใจเตียวหุยให้ได้ หรือเมตตาให้ได้แบบนาย
 	การ communicate กับลูกน้อง ที่จะได้ลูกน้องที่เก่ง ๆ ยังอยู่ข้างกายเรา
 	เราต้องปรับเรื่องการ communicate เวลาที่เราคุยเรื่องต่าง ๆ กับลูกน้อง ไม่ใช่ว่าเราจะไม่อธิบายมาก หรือพูดจากห้วน ๆ แล้วคิดว่าเค้าจะเข้าใจ ดูตัวอย่างจากเล่าปี่ เค้าต้อง communicate มากเพื่อให้เตียวหุย และกวนอูเข้าใจและยอมรับได้ หรือดูตัวอย่างจากที่ทุกวันนี้นายยังต้องสัมภาษณ์อยู่เลย เพื่อให้ได้คนเก่งๆเข้ามา
 	การชื่นชม และเห็นคุณค่าของลูกน้อง
 	ปรับเรื่องของเราที่ไม่ใช่ว่าเราจะติแต่ข้อเสียของลูกน้องอยู่ตลอดเวลา เราก็ต้อง appreciate กับข้อดีของเค้าด้วย ไม่งั้นเค้าจะไม่อยากเป็นลูกน้องเรา

เรียนรู้เรื่องความเป็นลูกน้อง

จากบทบาทของกวนอู และเตียวหุย ทำให้เรา review เรื่องบทบาทความเป็นลูกน้องเหมือนกัน ที่ทำให้เราปรับตัวเอง และเราสามารถนำไปสอนลูกน้องให้ทำตามได้อีก คือ

 	ผู้น้อยต้องรู้จักคุณค่าที่ได้รับจากนาย ซึ่งตรงนี้เราต้อง appreciate กับทุกสิ่งที่นายมอบให้ และเราต้องสอนลูกน้องให้ appreciate ในส่ิงที่เราให้เหมือนกัน
 	รู้จักบทบาทและหน้าที่ของลูกน้องแบบกวนอูและเตียวหุย ที่ต้องเชื่อฟัง และทำตามทุกอย่างที่นายต้องการ ไม่ว่าเราจะคิดยังไง เวลาที่นายสั่ง หรือแค่เปรยมา เราต้องรีบที่จะตอบสนองนายทันที ซึ่งเราก็ต้องสอนลูกน้องแบบนี้เหมือนกัน ในการทำตามคำสั่งของเรา
 	ประโยชน์ของนายต้องมาก่อน หลักในการทำงานและตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ต้องวัดจากผลประโยชน์ของนายเป็นหลัก ซึ่งถ้าเราทำตามนั้น ประโยชน์ของนาย เราก็ได้ประโยชน์ด้วยอยู่ดี

เรียนรู้ว่าชีวิตจะเจริญหรือไม่อยู่ที่

 	การเลือก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกบริษัทหรือคู่ เราต้องมีหลักเกณฑ์ที่ถูกต้องในการตัดสินใจว่าเราจะเลือกอะไร ซึ่งหลังจากที่ได้ฟังหลาย ๆ คนเรื่องหลักในการเลือกบริษัท ก็ทำให้เรียนรู้วิธีคิดของแต่ละคนในแต่ละ level และได้หลักในการเลือกบริษัท ซึ่งสามารถ apply ไปในการเลือกสิ่งอื่น ๆ ด้วย หลักการเลือกก็คือ เราต้องไม่ Greedy
 	Good at Heart ดูตัวอย่างแบบนาย ซึ่งไม่ว่าใครจะทำอะไรที่ไม่ดี เราต้องมีความ Good at Heart เป็นที่ตั้งไว้อยู่เสมอ จะทำให้เราเจริญ
 	การตีบทบาทของตัวเองให้แตก แบบที่นายยกตัวอย่าง ถ้าเราเจอลูกน้องที่ไม่ดี เราก็ไม่จำเป็นที่เราจะทำตัวไม่ดีแบบลูกน้อง ลูกน้องเราไม่ดี แต่เรายังเป็นนายที่ดีอยู่ได้มั้ย
 	การจัดการ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับการจัดการ ถ้าเราทำทุกอย่างดี แต่การจัดการไม่ดีก็พังหมด เราต้องดูตัวอย่างการจัดการของนายในการจัดการเรื่องงาน โดยที่การจัดการเรื่องครอบครัวก็ไม่เสียไปด้วย

ได้เห็นข้อคิดและเรื่องราวดีๆ ที่ได้เรียนรู้จากภาพยนตร์อันทรงคุณค่าอย่าง “สามก๊ก” ซึ่งเพียงแค่ตอนเดียวก็สอนอะไรให้เราได้ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและเป็นข้อคิดในการทำงานมากมาย...ทำให้คุณอดใจที่จะติดตามดูตอนต่อไปแทบไม่ไหวเลยใช่มั้ยคะ! ตอนหน้าจะมีเรื่องราวดีๆให้ติดตามอะไรกันบ้าง อย่าลืมติดตามสามก๊ก@work กันนะคะ



ตอนที่ 1 “เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย สาบานเป็นพี่น้องกันในสวนท้อ"

Guitar Lesson 19: สอนวิธีการเล่นเพลง The Girl from Ipanema

Heart Live คืนนี้ Liveกันที่บ้านคุณฮาร์ท วันนี้มาในบรรยากาศสบายๆเช่นเดิม คุณฮาร์ทมาร้องเพลงเพราะๆที่แต่งใหม่ให้น้องเอ็ม แต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ คุณฮาร์ทจึงมาเล่นให้เพื่อนๆฟัง และช่วยกันลองตั้งชื่อเพลงให้คุณฮาร์ทกัน นอกจากนี้ยังมีเพลงเพราะๆมาแถมอีกหลายเพลงเลยค่ะ
ท่านผู้ชมสามารถดู Live ดีๆกันแบบนี้ได้ใหม่ในสัปดาห์หน้า
อย่าลืมกดติดตาม(Follow) Facebook Page "By Heart"  เพื่อติดตามฟังเพลงเพราะๆกันใหม่นะคะ  #HeartLive</p>

All