1. การบริหารจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management)- วางแผนและควบคุมกระบวนการรับ จัดเก็บ และเบิกจ่ายวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูปให้เป็นไปตามระบบอย่างมีประสิทธิภาพ
- บริหารจัดการพื้นที่ในคลังสินค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Space Optimization) และดูแลรักษาสภาพแวดล้อมในการจัดเก็บให้เหมาะสมกับสินค้า (ป้องกันความเสียหาย เช่น รอยขีดข่วน, การยุบตัว)
- นำและรักษากฎระเบียบ 5ส และหลักการ FIFO (First-In, First-Out) / FEFO (First-Expired, First-Out) มาใช้ในการดำเนินงานประจำวัน
- ควบคุมดูแลการใช้งานและบำรุงรักษาอุปกรณ์ที่ใช้ในคลังสินค้า เช่น รถโฟล์คลิฟท์ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและปลอดภัย
2. การควบคุมสินค้าคงคลัง (Inventory Control)
- วางแผนและควบคุมการตรวจนับสต็อกสินค้า (Cycle Count, Year-End Count) เพื่อให้ข้อมูลในระบบมีความแม่นยำ (100% Accuracy)
- วิเคราะห์ข้อมูลสต็อกสินค้า เพื่อบริหารจัดการระดับสินค้าคงคลังที่เหมาะสม (Optimum Level), สินค้าที่เคลื่อนไหวช้า (Slow-Moving) และสินค้าที่ใกล้หมดอายุ (Aging Stock)
- ทำงานร่วมกับระบบ ERP หรือ WMS ของบริษัทในการบันทึกและตรวจสอบความเคลื่อนไหวของสินค้าคงคลังทั้งหมด
- จัดทำรายงานสรุปข้อมูลสินค้าคงคลังและเสนอแนวทางการปรับปรุงแก่ผู้บริหาร
3. การบริหารทีมงานและความปลอดภัย (Team & Safety Leadership)
- บริหารจัดการ, สอนงาน, และพัฒนาศักยภาพทีมงานคลังสินค้า
- กำหนดและประเมินผลตัวชี้วัดประสิทธิภาพการทำงาน (KPIs) ของแผนกและรายบุคคล
- ส่งเสริมและกำกับดูแลให้พนักงานทุกคนปฏิบัติตามกฎระเบียบความปลอดภัยในการทำงาน (Safety Regulations) อย่างเคร่งครัด
- สร้างวัฒนธรรมการทำงานที่มุ่งเน้นการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (Continuous Improvement)
4. การประสานงานและการรายงาน (Coordination & Reporting)
- ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายวางแผนการผลิต, ฝ่ายขาย, และฝ่ายควบคุมคุณภาพ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น
- วิเคราะห์ปัญหาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นในกระบวนการทำงาน
- จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงาน, ปัญหา, และแนวทางการพัฒนาของแผนกเพื่อนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชาเป็นประจำ