เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารองค์กร (นโยบายยุทธศาสตร์)
หอการค้าไทย- ร่วมวางแผนการดำเนินงาน และกิจกรรมของสายงานต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางและนโยบายภาพรวมขององค์กร
- ร่วมขับเคลื่อนและติดตามการปฏิบัติงานของแต่ละสายงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
- จัดทำข้อมูลวิชาการ เอกสารประกอบการประชุม/การบรรยาย ของประธานกรรมการและภารกิจสำคัญอื่นๆ ขององค์กรตามที่ได้รับมอบหมาย
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสายงานภายในองค์กร รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรโดยภาพรวม
- จัดทำและบริหารงบประมาณของสำนัก ฯ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
- เขียนข่าว และContent ต่างๆเพื่อใช้สื่อสารภายในและภายนอกองค์กร
- วางแผนการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร
- ประสานงานกับฝ่ายสื่อสารองค์กร จัดทำสื่อต่างๆทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์
- ติดต่อประสานกับหน่วยงานภายในและภายนอกองค์กร ที่เกี่ยวข้องในการสื่อสาร
- วุฒิการศึกษาปริญญาตรี หรือปริญญาโท สาขาเศรษฐศาสตร์/บริหารธุรกิจ/ รัฐศาสตร์/รัฐประศาสนศาสตร์
- เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.75
- มีความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ พูดและเขียนได้ดี TOCIE 650 ขึ้นไป
- มีประสบการณ์ด้านการประสานงาน / งานเลขานุการคณะกรรมการ/งานการ ประชุม อย่างน้อย 5 ปี
- มีความรอบรู้ด้านเศรษฐศาสตร์มหาภาค - จุลภาค ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลในการขับเคลื่อนประเทศ
- มีความสามารถในการประสานงานภายในและภายนอกองค์กร
- มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างการดำเนินงานขององค์กรและหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
- การฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน
- ค่าทำงานล่วงเวลา
- ค่าทุนการศึกษา
- ทำงานสัปดาห์ละ 5 วัน
- ประกันสังคม
- ประกันสุขภาพ
- ประกันอุบัติเหตุ
- เครื่องแบบพนักงาน, ชุดยูนิฟอร์ม
- โบนัสประจำปี
จนกระทั่งเกิดเป็นการประชุมขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2475 ณ บ้านของนาย เล็ก โกเมศ ตำบลตรอกกัปตันบุช ซึ่งการประชุมในครั้งแรกนั้น นอกจากจะตกลงกันในเรื่องการจัดตั้งหอการค้าแล้ว ยังได้กำหนดการเรียกชื่อหอการค้าไทยเป็นภาษาอังกฤษว่า Siamese Chamber of Commerce
ในขณะนั้น ยังไม่ได้กำหนดชื่อเป็นภาษาไทย เนื่องจากอาจจะยังหาคำที่เหมาะสมไม่ได้การประชุมในครั้งต่อมา ได้มีการถกเถียงในเรื่องชื่อภาษาไทยเป็นอย่างมาก โดย ดร.โชติ คุ้มพันธ์ เสนอว่าควรใช้ชื่อ " สภาพาณิชย์การแห่งสยาม" โดยมีความมุ่งหมายให้เป็นสภาที่ขอร้องต่อรัฐบาลให้ออกกฎหมายควบคุมการค้า และออกกฎหมายควบคุมร้านค้าให้เสียค่าบำรุง