Legal Executive
บริษัท สตอรี่ล็อก จำกัด- ช่วยจัดทำเอกสารสัญญา และเอกสารด้านกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนักเขียน, นักอ่าน, การเผยแพร่นิยาย, E-Book ที่เกี่ยวข้องกับ platform
- ช่วยดูแล จัดทำ ควบคุมเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นตามกฎหมายธุรกิจ
- ร่วมออก guideline, process จนถึงควบคุมดูแลความถูกต้องของกิจกรรมภายในบริษัท เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย
- ประสานงานกับทีม Legal ของบริษัท Ookbee (บริษัทแม่ของ Storylog) เพื่อให้ขั้นตอนต่างๆ ถูกต้อง และสอดคล้องกับมาตรฐานของ กลุ่มบริษัท
- Update มาตรฐานกฎหมายใหม่ๆ รวมถึงการช่วยออกแบบขั้นตอน และบังคับใช้ภายในบริษัท
What we're looking in you:
- ปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต *Fresh graduates are welcomed
- มีความรู้เบื้องต้นด้านกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา, กฎหมายลิขสิทธิ์ และกฎหมายธุรกิจ
- หากมีประสบการณ์เคยดูแลงานกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา, กฎหมายลิขสิทธิ์ และกฎหมายธุรกิจ จะพิจารณาเป็นพิเศษ
- หากเคยดูแลงานกฎหมายของบริษัท E-commerce หรือ Tech Company จะพิจารณาเป็นพิเศษ
Your cool benefits & the need-to-know:
- Flexible work hour! เข้างานกี่โมงก็ได้ วัดกันที่ผลงาน และไม่กระทบเพื่อนร่วมทีม
- Work from home กี่ครั้งก็ได้ไม่จำกัด!! แค่แจ้งกันก่อน …ก็นะ ชีวิต กทม. จะเจออะไรกันบ้างก็ไม่รู้
- เรามีอาหารกลางวันให้ฟรี!!
- เรามีมุมกาแฟพร้อมเครื่อง Espresso รวมถึงอุปกรณ์ดริป และ Aeropress
- มีประกันสุขภาพ และ ประกันชีวิตให้
- เราอยู่กันในออฟฟิศที่เหมือน Co-Working Space ในอารมณ์แบบ Home Office บรรยากาศสบายๆ
- วงดนตรีบรรเลงแทบทุกเย็น กีต้าร์ คาฮองพร้อม จะร้องจะเล่นมาแจมกันได้เสมอ
- ทีมเราเป็นทีมคนรุ่นใหม่ เราจึงทำงานกันอย่างตรงไปตรงมา งดดราม่า ขี้นินทา
- เราอนุญาตให้นินทาคนนอกบริษัทได้เพื่อความเพลิดเพลิน เราสัญญาว่าจะเหยียบไว้ให้มิด
- ห้ามแต่งตัวดีจนเกินไป ฟอร์มปกติของทีมเราคือ เสื้อยืด ขาสั้น หรือ ยีนส์
สถานที่ทำงาน :
โครงการ Habito Mall เดินจาก BTS 10 นาที มี shuttle bus รับ-ส่งจาก BTS อ่อนนุช
จุดขึ้นรถอยู่หน้า Lotus อ่อนนุช บริเวณใต้บันได BTS ทางออก 2
Google Map Location: https://goo.gl/maps/xeT2CotDq36moeK86
ถ้าคุณคิดว่าคุณคือคนที่ใช่ และอยากร่วมงานกับเรา
กดสมัครเข้ามากันได้เลย
ทีมงาน Storylog และ Fictionlog รอทำงานร่วมกับคุณอยู่ :)
Storylog Co., Ltd.
(โครงการ Habito Mall ชั้น 3) เลขที่ 1 ซอยริมคลองพระโขนง
แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ 10110 ห้อง 306-307, 307/2
Website: https://fictionlog.co/
- Focus only results. We don't have hierachy or any other unnessary ritual :)
- Free Coffee bar with an Espresso machine including dripping & aeropress equipments
- We provide free lunch!!
- การฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน
- ค่ายินดีมงคลสมรส
- ทำงานที่บ้าน
- ทำงานสัปดาห์ละ 5 วัน
- ประกันชีวิต
- ประกันสังคม
- ประกันสุขภาพ
- ประกันอุบัติเหตุ
- มีเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น
- เงินช่วยเหลือฌาปนกิจ
- เที่ยวประจำปี หรือเลี้ยงประจำปี
- โบนัสตามผลงาน/ผลประกอบการ
- โบนัสประจำปี
- เข้างานกี่โมงก็ได้ ไม่มีตอกบัตร ไม่นับชั่วโมงทำงาน มีคุยงานใดๆ แต่ละทีมก็นัดแนะกันเอง สถิติการเข้างานสูงสุดของออฟฟิศที่ทำไว้คือ 11.47 …เอ๊ะ ก็ดูไม่ช้าหนิ เปล่า ไม่ใช่ 11 โมงเช้า มันเข้างาน 5 ทุ่ม 47 พร้อมถุงนอน มา Hackathon กันเอง!!!
- Work from home ได้ไม่จำกัด แค่แจ้งกันก่อน และต้องไม่กระทบกับเพื่อนร่วมทีมนะ … ก็นะ ชีวิต กทม. จะเจออะไรกันบ้างก็ไม่รู้ วันใดฝนตกหนักน้ำท่วม รถไฟฟ้าเสีย มี PM2.5 ก็ทำงานอยู่บ้านกันไปเถิด ไม่ต้องลำบากมากันหรอก .... แต่!! ถ้ามีประชุมงานสำคัญ หรือประชุมบริษัทจำเป็นต้องเข้าห้ามอิดออด!!
- มีข้าวกลางวันให้ฟรี ทุกวัน แถมมาม่าฟรีเผื่อหิว ขนมฟรีเติมให้ตลอด มีห้องครัวเล็กๆ ให้ทำกับข้าวกินเองได้… คือมากกว่านี้จะเป็นโรงเจแล้วนะ ฝ่ายบัญชีเรายังเรียนทำขนมและปลูกผักกินเอง จึงนำของอร่อยๆ มาแบ่งคนในออฟฟิศอยู่อย่างไม่ขาดสาย ลาภปากมากๆ ฮ่าๆๆ
- เรามีมุมกาแฟพร้อมเครื่อง Espresso รวมถึงอุปกรณ์ดริป และ Aeropress กาแฟมีทั้ง Espresso Blend จาก Karo Roaster และ Single Origin มากมายจากทุกมุมโลก ชงเองได้ ใช้ CEO ชงก็ได้ …ข้อห้ามอย่างเดียวคือใส่เมล็ด Starbucks ลงเครื่องบด! Hipster ที่ออฟฟิศรับกลิ่นความแมสไม่ได้!!!
- เราอยู่กันในออฟฟิศที่เหมือน Co-Working Space ในอารมณ์แบบ Home Office บรรยากาศสบายๆ
- บอร์ดเกมทุกกลางวัน อันนี้เราจริงจังกับสิ่งนี้มาก ถ้าคุณเล่นไม่ดี ผิด logic ทำทีมเสีย คุณจะโดนสังคมประณาม แต่ถ้าคุณทำงานพลาด จะไม่มีใครว่าอะไรคุณ… งานมันพลาดกันได้ แต่บอร์ดเกมอย่าเล่นพลาดนะเฟร้ย! อันที่จริง culture นี้ค่อนข้างดีนะ มันทำให้คนได้รู้จักกันมากขึ้น ได้เห็นหลายๆ มุมของคนอื่นมากขึ้นด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นมุมจัญไร โกหก ตอแหล ปลิ้นปล้อน หลอกลวง หลอกใช้ ทุกอย่างแย่ๆ เราแสดงพฤติกรรมนั้นให้เห็นกันหมดแล้วตอนเล่นเกม ตอนทำงานเลยกลายเป็นคนดีกันไปหมดเลย ดีจัง ฮ่าๆๆ
- PS4, Nintendo Switch พร้อมลุยเสมอ… ทุกวันนี้ยังหาคนเล่น PES และ TEKKEN ชนะ CEO ไม่ได้เลย เรากำหนดไว้ว่าไม่อนุญาตให้เล่นช่วง 13.00–18.00 กฎนี้รวมไปถึงเกมมือถือด้วย คือเคยปล่อยอิสระ ช่วง ROV นี่เละเทะเกินไป เลยต้องมีกฎกันไว้สักนิด
- วงดนตรีบรรเลงแทบทุกเย็น กีต้าร์ คาฮองพร้อม จะร้องจะเล่นมาแจมกันได้เสมอ บริษัทเรามีคนเล่นกีต้าร์ได้ 7 คน เรียกได้ว่าไม่มีเหงาหู? ดนตรีสดบรรเลงให้ฟังกันทุกวัน
ทุกข้อที่กล่าวไปข้างบน มันไม่ใช่สิ่งที่เป็นแกนหลักในภารกิจสร้าง Culture ในฝันขนาดนั้นหรอก… มันยังมีอีกหลายอย่างที่เรายังทำไม่สำเร็จ และทำได้ไม่ดีพอ
Culture การทำงานที่เราอยากให้เป็นมันไม่ใช่แค่ออฟฟิศคูลๆ มีเบียร์ มีโต๊ะปิงปอง ข้าวกลางวันฟรี มีบอร์ดเกม มีบีนแบ็ค ออฟฟิศสวยๆ อะไรเทือกนั้นๆ เราไม่ได้มาเล่นๆ เฮฮาๆ แล้วกลับบ้าน เราไม่ใช่บอร์ดเกมคาเฟ่
เราทุกคนมา “ทำงาน” ที่นี่คือ “ออฟฟิศ”
เราคิดว่า Culture ในแบบที่เราทำมาถึงทุกวันนี้ ถึงจะสุดโต่ง แต่เป็นเวย์ที่ดีไม่น้อย อาจจะวัดได้จากเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา turnover rate เราต่ำมากๆ มีคนลาออกไปประมาณแค่ 5 คนได้
แต่ Culture ในฝันที่เราอยากไปถึงและยังไม่ถึง มันไม่ใช่แค่ How we live แต่มันคือ How we work เสียมากกว่า …สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทางเรายังพยายามพัฒนากันอยู่
อันที่จริงเวลาบริษัทต่างๆ ออกมาแชร์เรื่อง How we work มักจะพูดกันในเรื่องสนุกๆ อย่างที่ผมพูดนั่นแหละ มันยากที่จะเล่าและถ่ายทอดส่วนดีเทลในการทำงานจริง ทั้ง Process ต่างๆ การแก้ปัญหา การสื่อสารระหว่างทีม การวัดผล การรีพอร์ท …สิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งสำคัญทั้งนั้น และไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ดี
ยิ่งหากเราให้ทำงานอิสระดูแลตัวเองกันแบบสุดโต่งอย่างที่เราทำ ความชัดเจนในความรับผิดชอบ flow และ process งาน รวมถึงเป้าหมายและการวัดผลมันยิ่งต้องชัดเจน …ไม่อย่างนั้นคนทำงานก็จะ lost ว่าฉันต้องเดินต่อไปอย่างไร เราเจอปัญหานี้กันมาแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังแก้ไม่เรียบร้อย ><
ภาพของ Culture ในฝันที่เราอยากเห็นคือ ทุกคนมาทำงานโดยเข้าใจในบทบาทหน้าที่ และความสำคัญของงานตัวเองอย่างถ่องแท้ และมันควรจะต้องช่วยสร้าง environmant ที่ส่งเสริมให้คนได้พัฒนาทั้งในด้านอาชีพและในฐานะมนุษย์คนหนึ่งไปพร้อมๆ กันอีกด้วย
สำคัญที่สุดคือมันต้องเกื้อหนุนทำให้เกิด Psychological safety กับเพื่อนร่วมงาน สบายใจที่ทำงานด้วยกัน มีปัญหาอะไร คุยกันได้ตรงๆ รู้สึกปลอดภัยที่จะถามคำถามโง่ๆ ปรึกษาเรื่องใดๆ และเตือนกันได้แบบไม่ต้องกลัวอะไร
ฉะนั้นสรุปแล้วมันยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องเดินหน้าพัฒนาต่อ
ซึ่งก็ไม่ได้คาดหวังให้ทุกคนอยู่กับบริษัทไปตลอดชีวิตหรอกนะ
Culture ที่ดีมันคงไม่ได้วัดกันที่ว่าทำให้คนอยู่ด้วยกันได้นานแค่ไหนด้วยซ้ำ วันหนึ่งต่างคนอาจจะต้องแยกทาง จะเรียนต่อ จะกลับไปทำที่บ้าน หรือจะไปเริ่มต้นอะไรของตัวเอง
ฉะนั้นในช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เราควรจะสร้างประโยชน์ด้วยกันให้ได้มากที่สุด คุณได้พัฒนาตัวเอง ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ สนุกกับความท้าทายที่ได้รับมอบหมาย ได้ลองผิดลองถูก เรียนรู้ร่วมกัน บริษัทได้งานดีๆ จากคุณเพื่อช่วยให้เราเติบโตทางธุรกิจ