"ไม่มีอะไรหรอก
ก็อยู่มาร่มเย็นเป็นปกติสุขดี"
ลุงสงวนออกตัวกลั้วเสียงหัวเราะ
สุสานโบราณที่ถูกขุดแต่งจนพบร่องรอยโครงกระดูก มนุษย์โบราณแห่งนี้แม้จะถูกยก
เป็นสมบัติของชาติแต่ก็กลายเป็นขุมทรัพย์มหาศาล ที่เสมือนแม่เหล็กดึงดูดให้บ้าน
ของป้ามูลและลุงสงวนหัวบันไดไม่แห้ง ต้องต้อนรับ ขับสู้ทั้งนักศึกษา
นักวิชาการ และนักท่องเที่ยวจากต่างแดนที่แวะมาพำนัก พักพิง อยู่ไม่ได้ขาด
เมื่อกรม ศิลปากรเข้ามาจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ภายในหมูบ้าน พร้อมกับ การท่องเที่ยว
แห่งประเทศไทย เข้ามาสนับสนุนด้าน กิจการท่องเที่ยว รวมทั้ง หน่วยงาน
ส่งเสริมกิจกรรมชุมชน เกิดกลุ่มวิชาชีพต่างๆ หลายกลุ่ม ชั่วระยะเพียงปีเศษ
หลังเปิดตัวบริการ "โฮมสเตย์" ขึ้นภายในหมู่บ้าน ด้วยค่าบริการหัวละ
300 บาท ต่อคืน สำหรับคนไทย ส่วนชาวต่างประเทศบวกอีก 100 บาท บ้านของป้ามูล
และลุงสงวนก็พลอยติดอันดับ 1 ในจำนวน 13 การจัดบ้านให้เป็นที่พัก
แบบโฮมสเตย์ ยอดนิยมด้วย
ก้าวแรกที่มาถึง
พิธีบายศรีสู่ขวัญ วงมโหรีบรรเลงรอต้อนรับ พร้อมๆ กับสำรับคับค้อน
ที่เต็มไปด้วยอาหารรสเลิศ มีวิทยากรท้องถิ่นคอยให้คำนะนำพาสัมผัสวิถีชีวิตพื้นบ้าน
และแหล่งโบราณคดี ที่มีอยู่ทั่วหมู่บ้าน แถมด้วยการฝึกหัดงานหัตถกรรมพื้นบ้าน
ทอเสื่อ ทอผ้า ฯลฯ
"แขกส่วนมากที่มาพักกินง่ายอยู่ง่าย
น้ำพริกปลาร้า ผักต้มก็กินได้ แต่พวกฝรั่งชอบกินไก่ทอด เวลาคุยกันก็ใช้ภาษามือ
บ่มีปัญหาหรอก" ป้ามูลคุยไปยิ้มไปอย่างภาคภูมิใจ
บ้านปราสาทแห่งนี้มีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์
มีชุมชนต่อเนื่องกันมาตลอดเวลาหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่สมัยก่อน ประวัติศาสตร์
3,000 ปี จนถึงยุคทวารวีและขอมโบราณเชื่อมโยงมาถึง ยุคจองห้องพัก
ทางอินเตอร์เน็ต
|