บ้านมุง ดินแดนแห่งถ้ำ


	Job l Good Heart l Work Hard	GO TO

ลักษณะทางธรณีวิทยาของอุทยานฯ ประกอบด้วย หินชั้นและหินแปร ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ หินทราย หินดินดาน และหินปูน โดยชั้นหินทรายและ หินดินดาน จะเป็นส่วนที่ครอบคลุมพื้นที่อุทยานฯ ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดจากกิ่งอำเภอสากเหล็ก จังหวัด พิจิตร สู่อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลกที่อยู่ ห่างออกไป 20 กิโลเมตร บริเวณด้านตะวันตกเฉียง ใต้ของอุทยานฯ เส้นทางสายนี้ จะนำไปสู่"บ้านมุง" ที่ อยู่ห่างจากตัวอำเภอเนินมะปราง ไปอีก 7 กิโลเมตร พื้นที่ราว 30 ตารางกิโลเมตร กลับเต็ม ไปด้วยชั้นหิน ปูนสิเทาหมวดหินผานกเค้า อันประกอบ ด้วยหินเชิร์ต สีดำและมีหินดินดานแทรกสลับ ลักษณะเช่น นี้เองจึง ก่อให้เกิดภูมิประเทศที่สลับซับซ้อนไป ด้วยเทือกเขา หินปูนน้อยใหญ่ มียอดตะปุ่มตะป่ำเรียงรายติดต่อกัน และเกิดถ้ำน้อยใหญ่มากมายนับร้อยถ้ำ เช่น

ถ้ำบ้านมุง
อยู่ภายในบริเวณวัดบ้านมุง ถ้ำแห่งนี้อาจไม่ใช่ถ้ำที่ สวยงามมากนัก หากแต่มีความสำคัญโดยเป็นแหล่ง อาศัย ของค้างคาวหูหนูปากย่นจำนวนนับหมื่น ๆ ตัว

ถ้ำเดือนถ้ำดาว
อยู่ห่างจากบ้านมุงไปราว 1 กิโลเมตร และเป็นที่ตั้ง ของหน่วยพิทักษ์ป่าถ้ำเดือนถ้ำดาว (สล.6) ที่ตั้งอยู่ บริเวณ หน้าปากถ้ำ ถ้ำแห่งนี้มีลักษณะเป็นถ้ำน้ำลอด กำเนิดมาจาก ที่ทางน้ำใต้ดินกัดกร่อนชั้นหินปูน แล้ว แทรกตัวไปตาม รอยแยกต่าง ๆ มานานนับล้านปี จนสามารถชอนไชไปทะลุ ยังอีกด้านหนึ่งได้ในที่สุด ถ้ำเดือนถ้ำดาวเป็นถ้ำที่สายน้ำไหลมาจากนอกถ้ำมุดตัวลงไปเป็นทางน้ำใต้ดินจากอีกฟากหนึ่งของถ้ำ แล้ว ผ่านกระบวนการกัดเซาะมานานนับล้าน ๆ ปี จึงเกิดเป็นถ้ำน้ำลอดขึ้น โดยมีทางน้ำมาทะลุออกอีกด้านหนึ่ง ให้เห็นคือ ด้านปากถ้ำที่บ้านมุงนี้ ด้วยระยะทางความยาวของตัวถ้ำราว 1.4 กิโลเมตร การเข้าไปเที่ยวชม ถ้ำเดือนถ้ำดาว ฤดูที่เหมาะสมที่สุดควรเป็นในฤดูแล้งที่น้ำในคลองถ้ำดาวมีปริมาณลดลงและง่ายต่อการ เดินเข้าไปสำรวจภายในถ้ำ หากเป็นช่วงฤดูฝนจะไม่มีหนทางที่เข้าไปสำรวจ ถ้ำได้เนื่องจากปริมาณน้ำมี มากและอันตราย

ถ้ำพระไทรงาม
ต้องย้อนกลับออกมาจนถึงแยกดงงูก่อนถึงตัวอำเภอเนินมะปรางเล็กน้อย เลี้ยวขวาไปราว 7 กิโลเมตร แล้วแยกขวามืออีกครั้งหนึ่ง ไปตามเส้นทางลำลองที่เป็นหลุมเป็นบ่อราว 2.5 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณถ้ำ พระไทรงาม ลักษณะการกำเนิดของ "ถ้ำพระไทรงาม" นี้ก็เป็นการกำเนิดของถ้ำน้ำลอด ในลักษณะเดียว กัน กับถ้ำเดือนถ้ำดาวนั่นเอง หากแต่ถ้ำพระไทรงามนี้บริเวณปากถ้ำจะมีลักษณะงดงามกว่า ด้วยหินย้อย และเถาไม้เลื้อยที่ปกคลุมอยู่ บริเวณหน้าถ้ำ หนทางลงสู่ถ้ำจะต้องปีนลงไปจากด้านบนก่อน จุดน่าสนใจเริ่ม ตั้งแต่หินย้อยรูปร่างคล้ายช้าง หรือไดโนเสาร์ในคูหาแรก ผ่าน "ทำนบหินปูน" ซึ่งเป็นการก่อตัวขึ้นของ หินปูนมีลักษณะคล้ายทำนบหรือเขื่อนที่กั้นน้ำไว้ หรือคล้ายกับนาขั้นบันได จุดเด่นของถ้ำนี้คือการพบปลา สีขาวที่ไม่ มีตา มีด้วยกันถึง 2 ชนิด คือ ขนาดเล็กราว 4 นิ้ว และขนาดใหญ่ราว 1 ฟุต ปลาพวกนี้มีหนวด ยาวอยู่ที่ปาก 6 เส้น สังเกตดูส่วนที่เป็นตาจะเป็นแค่เพียงจุดแดง ๆ ไม่มีลูกตาเหมือนปลาทั่วไป ทั้งนี้เนื่อง

จากพวกมันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ สายตาในสภาพที่มืดมิด คงใช้แต่หนวดหรือ ประสาทสัมผัส อย่างอื่นในการหากินและ ดำรงชีพเท่านั้น ชนิดตัวใหญ่ที่พบมีหางเป็น แฉกสีแดงคล้าย ปลาตะเพียนและอยู่ตามวัง น้ำลึกนอกจากปลา ไม่มีตาที่พบแล้ว ภายในถ้ำ แห่งนี้ยัง มีกุ้งตัวใส ๆ หัวสีขาวอีกชนิดหนึ่ง ที่พบอยู่ทั่วไปในธารน้ำ และมีปูถ้ำลำตัวสีคล้ำ มีก้ามสีขาว อาศัยอยู่ตามผนังถ้ำ ในเห็นอีก ด้วย

และถ้ำอื่น ๆ เช่น ถ้ำพระรถเมรี ถ้ำนาง สิบสอง ถ้ำพระพราย ถ้ำช่องนาคราช ถ้ำต้นยอ ถ้ำต้นไทร ถ้ำพุทธมนต์ ถ้ำท้าวทศรถ ถ้ำกระรอก ถ้ำเมืองขิง ถ้ำหน้าเมืองสาน ถ้ำถ้วยน้ำชา ถ้ำอธิษฐาน-ภูผาบารมี ถ้ำหลวงพ่อบุญมี ถ้ำแก้ว และถ้ำพระวัดแดง

ข้อมูล

งาน ตามสายอาชีพ
Find Jobs by Job Field

หางาน ตามเขตใน กทม./ต่างจังหวัด
Find Job by Location

สมัครงาน ตามประเภทอุตสาหกรรม
Find Job by Industry