1. บริหารจัดการภาพรวม (Strategic & Overall Management)
• วางแผนและบริหารงานจัดซื้ออะไหล่ทั้งหมดให้สอดคล้องกับนโยบายองค์กร
• กำกับดูแลทีมจัดซื้อเพื่อให้การสั่งซื้อเป็นไปตาม KPI ของบริษัท เช่น ราคา, คุณภาพ, Lead Time
• จัดทำแผนงานประจำปี (Annual Purchasing Plan) และงบประมาณจัดซื้ออะไหล่
2. บริหารต้นทุน (Cost Management & Optimization)
• วางกลยุทธ์ลดต้นทุน (Cost Reduction) เช่น การเจรจาต่อรองราคา, รวมยอดสั่งซื้อ, Supplier Consolidation
• ติดตามและควบคุมต้นทุนอะไหล่ให้เป็นไปตามงบประมาณ
• วิเคราะห์ราคา เปรียบเทียบราคาแต่ละผู้ขาย และจัดทำ Cost-saving report
3. บริหารกระบวนการจัดซื้อ (Process & Operational Excellence)
• พัฒนาและปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อให้มีประสิทธิภาพ ลด Cycle Time และลดข้อผิดพลาด
• ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารการจัดซื้อ เช่น PO, PR, Contract
• จัดทำมาตรฐานการทำงาน (SOP) และกำกับให้ทีมทำงานตามขั้นตอน
• ประสานงานกับฝ่ายซ่อมบำรุง/คลัง/บัญชี เพื่อให้กระบวนการซื้อ–รับ–จ่ายเป็นไปอย่างราบรื่น
4. กลยุทธ์และการบริหาร Supplier (Strategic Sourcing & Supplier Management)
• คัดเลือกและประเมินผู้ขาย (Supplier Evaluation)
• พัฒนาผู้ขายให้สามารถสนับสนุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• จัดทำสัญญาซื้อขาย (Contract Management) และกำหนด Service Level Agreement (SLA)
• บริหารความเสี่ยงด้านซัพพลาย เช่น อะไหล่ขาดตลาด, ระยะเวลาส่งล่าช้า
5. การบริหารระบบ (System / Data / Reporting)
• ใช้ระบบ ERP / MRP / Purchasing System เพื่อบริหารข้อมูลสต็อกและการสั่งซื้อ
• ตรวจสอบข้อมูลสต็อกอะไหล่ร่วมกับคลังวัสดุ เพื่อป้องกันการขาดอะไหล่ที่จำเป็น
• จัดทำรายงานด้านจัดซื้อ เช่น Cost Saving, Supplier Performance, Lead Time Report
• พัฒนา Dashboard เพื่อติดตามสถานะการจัดซื้อแบบ Real-time
6. บริหารทีม (People Management)
• วางเป้าหมายและ KPI ให้กับทีมจัดซื้ออะไหล่
• โค้ชและพัฒนาความรู้ด้านสินค้าอะไหล่, การเจรจาต่อรอง, การใช้ระบบจัดซื้อ
• ควบคุมให้การทำงานมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ (Compliance & Internal Control)