1. การวางกลยุทธ์และบริหารกระบวนการสรรหา (Strategic Recruitment Management)
• กำหนดแผนกลยุทธ์การสรรหาให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจและการขยายสาขา
• วิเคราะห์แนวโน้มตลาดแรงงานและคู่แข่ง เพื่อกำหนดวิธีการสรรหาที่เหมาะสม
• ออกแบบโครงสร้างและขั้นตอนการคัดเลือกที่เพิ่มคุณภาพและความรวดเร็ว
• บริหารงบประมาณการสรรหาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
• พัฒนาช่องทางสรรหาใหม่ๆ (เช่น Social Recruiting, Employee Referral Program)
• รายงานและนำเสนอข้อมูลเชิงวิเคราะห์ (Recruitment KPIs, Cost per Hire, Time to Fill) ต่อผู้บริหาร
2. การวางแผนและบริหารสวัสดิการเชิงกลยุทธ์ (Strategic Welfare Management)
• วิเคราะห์ข้อมูลการใช้สวัสดิการและความพึงพอใจของพนักงาน เพื่อออกแบบสวัสดิการให้ตรงกับความต้องการ
• ศึกษาและนำเสนอสวัสดิการใหม่ที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์องค์กรและการรักษาพนักงาน (Retention)
• เจรจาและบริหารสัญญากับผู้ให้บริการ เช่น บริษัทประกันและโรงพยาบาล เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพบริการ
• กำหนดตัวชี้วัดประสิทธิภาพสวัสดิการ (Welfare ROI, Utilization Rate) และรายงานผลต่อผู้บริหาร
• ประสานงานกับฝ่ายสื่อสารองค์กรเพื่อประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์และโครงการต่างๆ ให้พนักงานรับรู้ทั่วถึง
3. การบริหารความสัมพันธ์พนักงานและข้อร้องเรียน (Employee Relations & Compliance Management)
• วางแผนและดำเนินนโยบายด้าน Employee Relations ให้เป็นไปตามกฎหมายแรงงานและวัฒนธรรมองค์กร
• วิเคราะห์ข้อมูลข้อร้องเรียน/ปัญหาความขัดแย้ง เพื่อป้องกันและแก้ไขเชิงระบบ
• ให้คำปรึกษาแก่หัวหน้างานและพนักงานในประเด็นทางวินัย การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และจรรยาบรรณ
• จัดทำและทบทวนระเบียบข้อบังคับของบริษัทให้เป็นปัจจุบัน สอดคล้องกับกฎหมายแรงงาน
• ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมแรงงาน หรือประกันสังคม ในกรณีตรวจสอบหรือร้องเรียน
• จัดกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน–ผู้บริหาร เช่น Open Forum, Dialogue Session
• จัดทำรายงานสถิติด้านวินัย แรงงานสัมพันธ์ และการร้องเรียนเสนอต่อผู้บริหาร