“ภูลังกา” เป็นอีกชื่อหนึ่งที่ดูจะคุ้นหูมากที่สุดของจังหวัดพะเยา รองลงมาจากกว๊านพะเยา เพราะเป็นยอดดอยที่มีชื่อเสียงมานาน ซึ่งภูลังกาคือส่วนหนึ่งของเทือกเขาผีปันน้ำอันยิ่งใหญ่ มีทะเลหมอกลอยฟ่องบนความสูง 1,700 เมตร และมีความอัศจรรย์ทางธรรมชาติซุกซ่อนอยู่!
รถเก๋งธรรมดาสามารถขึ้นไปถึงภูลังกาได้แค่สำนักงานและลานกางเต็นท์ เพราะหนทางช่วงขึ้นดอยต่อไปต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ 4WD เท่านั้น ใครไม่มีก็เช่ารถกระบะไต่เขาไปกลับได้แต่ก่อนจะขึ้นดอย วันนี้คงต้องกางเต็นท์พักผ่อนก่อน ลานกางเต็นท์ของที่นี่กว้างขวางมาก มีถึง 3 จุด พักได้ตั้งแต่ 100-500 คน แถมยังมีลายกางเต็นท์เล็กๆ ที่ระดับความสูง 1,400 เมตร ถือว่าจะได้สัมผัสป่าดิบเขาอย่างใกล้ชิด
ช่วงปลายฝนต้นหนาวราวเดือนพฤศจิกายน คือฤดูที่เริ่มมีนักท่องเที่ยวไปเยือนภูลังกาอย่างล้นหลาม จากนั้นผู้คนจะคลาคล่ำไปถึงเดือนมกราคม ในช่วงเดือนพฤศจิกายนลมหนาวเริ่มโหมแรงฟ้าโปร่ง อากาศเย็นเยียบ รถ 4WD ไต่ดอยขึ้นไปอย่างแช่มช้าตามไหล่เขาชัน สภาพป่าสองข้างทางชวนให้ตะลึง เพราะเป็นป่าดิบเขาหรือป่าหมอกที่สมบูรณ์ราวกับป่าโบราณ มีต้นก่อยักษ์เส้นรอบวงหลายคนโอบยืนต้นครึ้มต่อเนื่องกัน แม้หนทางจะขรุขระ แต่ทิวทัศน์ที่เห็นก็ทดแทนได้ดีเยี่ยม
กระทั่งมาถึงบริเวณตีนภูนมที่ความสูง 1,600 เมตร ลักษณะเป็นสันเขาแคบๆ ทอดตัวต่อเนื่องลดหลั่นลงมาจากยอดภูลังกาภูนมคือยอดดอยหัวโล้นมีหญ้าปกคลุม ลมพัดแรง บนยอดสามารถชมทิวทัศน์รอบทิศโดยเฉพาะทะเลหมอก รวมถึงพระอาทิตย์ขึ้นและตก จากจุดนี้ต้องเดินขึ้นเขาไปอีก 800 เมตร จนถึงยอดภูลังกาที่มีลักษณะเป็นสันดอยโล่ง ห่มคลุมด้วยทุ่งหญ้าป่าโปร่ง และมี “ลานหินล้านปี” ที่มีพรรณไม้หายากคือต้นชมพูภูพานที่จะผลิดอกสีชมพูรับลมหนาวในเดือนพฤศจิกายน
ยามเช้าจากยอดภูลังกางามประทับใจ แสงอุ่นของตะวันไล่ความหนาวไปได้ส่วนหนึ่ง ทะเลหมอกเบื้องหน้าช่างอ่อนโยนต่อเนื่องเข้าไปถึงประเทศลาว ลมหนาวหวีดหวิว ถ้าไม่มาเห็นกับตาคงไม่ซึ้งแน่นอน |