เช้าวันใหม่เริ่มต้นด้วยอาหารเช้าง่ายๆแต่สุดวิเศษกับบรรยากาศของภูเขาไฟกลางทะเลอีเจียน ระหว่างรับประทานอาหารได้ยินสียงกรุ๋งกริ๋งจากกระดิ่งห้อยคอลาที่เดินแบกอุปกรณ์ก่อสร้างหนักอึ้งเลาะเข้าไปตามทาง เพราะการเดินทางและการขนส่งสิ่งต่างๆเข้าไปในบ้านหรือร้านตามลาดผานิยมใช้ลาเป็นพาหนะ
วันนี้เราติดต่อรถเช่าเพื่อจะได้ขับรถสำรวจให้ทั่วเกาะ ซึ่งสะดวกและประหยัดเวลากว่าการโดยสารรถประจำทาง ค่าเช่ารถฮุนได 4 ประตูคันกะทัดรัด รวมค่าประกันอุบัติเหตุ เป็นเงิน 48 ยูโรต่อวันเท่านั้นเอง
ถนนในซานโตรินีเป็นทาง 2 เลน แต่จำนวนรถที่ไม่มากนักทำให้ขับได้สบาย ต้องปรับประสาทนิดหน่อย เพราะที่นี่ขับรถชิดขวา เราเริ่มขับรถออกจากตัวเมืองฟิรา เลี้ยวขวาลงด้านใต้ของเกาะ จุดหมายแรกคือซานโต ไวเนอรี (Santo Winery) ไวน์ชาโตว์ที่มีชื่อเสียง ระหว่างทางมองเห็นไร่องุ่นสองข้างทาง ที่นี่เขาม้วนเถาองุ่นพันเป็นวงๆและปลูกอยู่ติดพื้น ทำให้ทัศนวิสัยในการขับรถชมวิวสองข้างทางมองได้กว้างไกลมาก ประมาณ 10 นาทีเราก็มาถึงไวน์ชาโตว์ภายในอาคารสีขาวที่ตั้งอยู่บนเนินผามีโต๊ะอาหารและส่วนขายของที่เน้นไวน์ชื่อดังและของฝากอื่นๆ
เราขับรถต่อไป ผ่านเมืองพีกรอส (Pygros) มุ่งหน้าไปหาดคามาริ (Camari Beach) ตามทางลดเลี้ยวขึ้นเขาไปจนถึงด้านบนที่เป็นเขตทหาร แล้วก็จอดรถไว้บริเวณนั้น จริงๆแล้วยังขับขึ้นต่อไปได้อีก แต่ทางชันและไม่มีที่จอดรถด้านบนมากนัก จากจุดจอดรถเราเดินมาสุดที่ศูนย์บังคับการบิน ซึ่งมีทางแยกเดินลงเลาะผาด้านข้างของศูนย์ฯลงไปยังหาดคามาริ ระหว่างทางเดินมีดอกไม้เล็กๆมากมายให้ดู |
เมื่อขับย้อนกลับทางเดิม เราแวะเมืองพีกรอสซึ่งเป็นเมืองเล็กๆเงียบๆ เดินลัดเลาะตามซอกซอยเข้าไปแทบไม่เจอผู้คน แต่ละบ้านปิดประตูกันเงียบ เข้าใจว่าส่วนมากคงเข้าไปทำงานในเมืองฟิรา แต่ละบ้านสีสันสวยงามก็ทำให้เดินดูได้ไม่เบื่อ
เราออกเดินทางต่อ โดยมุ่งไปยังหาดเพอร์ริสซา (Perrissa Beach) หรือหาดทรายดำ (Black Beach) ที่ชายหาดเป็นทรายสีดำสนิทจากเถ้าลาวาของภูเขาไฟที่เคยระเบิดมาหลายครั้งในอดีตนั่นเอง หาดเพอร์ริสซาในวันนี้ไม่คึกคักนัก เพราะยังไม่ถึงหน้าร้อน (เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม) ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยว แต่ก็มีสาวๆกรีซใส่บิกินีนอนอาบแดดกันบ้าง หนุ่มๆบางคนถอดเสื้อนุ่งขาสั้น วิ่งเล่นจานร่อนกันอยู่ที่ชายหาด ในขณะที่พวกเราลงจากรถด้วยเสื้อผ้ามิดชิดพร้อมเสื้อกันหนาว โธ่! ก็อุณหภูมิอยู่ที่สิบกว่าองศาฯ แถมยังมีลมแรงอีกต่างหาก
ช่วงบ่ายเราขับรถย้อนกลับทางเดิม ผ่านเมืองฟิราเพื่อขึ้นเหนือไปเมืองเอีย (Oia) ว่ากันว่าใครมาซานโตรินีแล้วไม่ได้ไปถ่ายภาพโดมสีฟ้าและชมพระอาทิตย์ตกที่เอีย ก็เหมือนมาไม่ถึงซานโตรินีทีเดียว
ระหว่างทางเราแยกออกซ้ายไปอีกหน่อยเพื่อไปดูหาดทรายแดง (Red Beach) ทางไปหาดทรายแดงเป็นทางเดียวกับที่จะไปเมืองโบราณอะโกรตินี (Agrotini) ซึ่งมีซากอาคารโบราณที่กำลังขุดค้นกันอยู่ เมื่อขับรถมาถึงก็หัวเราะกันยกใหญ่ เพราะหาดที่เราตามหามันไม่ใช่หาดทรายสีแดง แต่เป็นหาดที่เต็มไปด้วยหินก้อนใหญ่และหินเหล่านั้นเป็นสีแดง คงเป็นหินที่มีแร่ธาตุต่างๆที่ทำให้เป็นสีแดงนั่นเอง
|