วันรุ่งขึ้นบริษัทรถเช่าส่งเจ้าหน้าที่มารับรถตรงตามเวลา พร้อมกับบริการพาเราไปส่งที่ท่าเรือเฟอร์รี เราใช้บริการ High speed ferry ของ Helenic Seaways ราคา 28 ยูโร เพื่อไปมิโคนอส (Mykonos) เกาะที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรีซ เฟอร์รีออกตรงเวลา บรรยากาศในห้องโดยสารคล้ายกับในเครื่องบิน เพียงแต่ไม่มีบริการอะไร แต่ก็หาซื้อเครื่องดื่มและอาหารง่ายๆได้จากบาร์ด้านหลัง
จากซานโตรินีใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก็มาถึงมิโคนอส เมื่อมองจากเฟอร์รีเข้าไปที่เกาะ เราเห็นบ้านเรือนสีขาวคล้ายกับที่ซานโตรินีแต่ไม่ได้ปลูกกันแน่นเต็มเชิงเขา ทว่าปลูกอยู่บนพื้นราบบริเวณริมหาดและท่าเรือ ลักษณะบ้านเป็นเหลี่ยมๆที่ถูกลบมุมบ้านให้โค้งมน ในขณะที่บ้านเรือนบนเกาะซานโตรินีจะมีลักษณะโค้งมนคล้ายถ้ำตามหน้าผา ที่เหมือนกันก็คือทาสีขาวหรือสีอ่อนๆ แล้วทาสีประตูหน้าต่าง หรือบริเวณกรอบให้เป็นสีสดใส
เราลากสัมภาระลงที่ท่าเรือมิโคนอส แล้วมุ่งไปยังโรงแรม Porto Mykonos ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ราคาค่อนข้างสูง แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมสระว่ายน้ำมองเห็นวิวมิโคนอสและทะเลอีเจียน ที่สำคัญอยู่ตรงข้ามกับท่าเรือนี่เอง
|
พวกเรารีบเก็บกระเป๋าเดินทางแล้วออกจากโรงแรม มุ่งหน้าเข้าไปในเมืองโฮรา (Hora) ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก เรามีเวลาอยู่ที่มิโคนอสเพียง 1 คืนเท่านั้น จึงเลือกที่จะเดินเที่ยวในเมือง ไม่เช่ารถขับไปเที่ยวตามหาดต่างๆของเกาะ ซึ่งตามที่อ่านข้อมูลมา ชายหาดหลายๆแห่งของมิโคนอสสวยงามและเต็มไปด้วยบาร์ พร้อมให้นักท่องเที่ยวกินดื่มและเต้นกันอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน หากมีเวลาเพิ่มอีกวันก็สามารถนั่งเรือข้ามไปเกาะเดลอส (Delos) เที่ยวชมพร้อมศึกษาอารยธรรมโบราณได้
สำหรับการเดินสำรวจเมืองมิโคนอสนี้ให้เก็บแผนที่ไปได้เลย เพราะตรอกซอกซอยคดเคี้ยววกวนจนหาตำแหน่งในแผนที่แทบไม่ถูก แต่เมืองก็ไม่ใหญ่โตอะไรนัก ทุกซอกทุกซอยส่วนมากเป็นร้านค้า เจ้าของร้านยิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับนักเที่ยวอย่างดี
ทางเดินที่ปูด้วยก้อนหินสะอาดสะอ้านชวนให้เดินเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาอย่างไม่รู้เบื่อ บางครั้งเดินไปเดินมาก็วนออกมาริมหาด เดินลัดเลาะทะลุร้านขายของไปถึงชายหาดอีกด้านหนึ่ง มองเห็นสัญลักษณ์ของเกาะมิโคนอส นั่นคือกังหันลม 5 อันเรียงแถวอยู่ที่ปลายแหลมของเกาะ เมื่อเดินขึ้นเนินไปยังที่ตั้งของกังหัน ก็มาถึงจุดชมวิวที่มองไปเห็นอาคารริมน้ำที่รู้จักกันในนามลิตเติลเวนิส (Little Venice) ฉาบแสงยามเย็นสวยงามทีเดียว แถมยังได้เห็นหนุ่มๆเดินเคียงคู่กันชมพระอาทิตย์ตกอย่างโรแมนติกหลายคู่ สมกับฉายาของเกาะมิโคนอสที่ว่า “Heaven of Gay!” จริงๆ
|