|
ผมมาถึงที่นี่เมื่อ 2
วันก่อนพร้อมกับนักท่องเที่ยวที่เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์เป็นชาวต่างประเทศ
ซึ่งอาศัยเรือเมล์เที่ยวเดียวกันมาจากปากบารา ต้นทางของการท่องทะเลสู่อุทยานฯ
หมู่เกาะ ตะรุเตา
นักท่องเที่ยวบาง ส่วนแวะลงสำรวจโลกธรรมชาติบนเกาะตะรุเตา ที่เป็นเกาะใหญ่ที่
สุด ในขณะที่ผมและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มุ่งหน้าต่อไปยัง กลุ่มเกาะอาดัง
ราวี ที่เมื่อไป ถึง นักท่องเที่ยวจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนที่ขึ้นพักเกาะอาดัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ อุทยานฯ
กับอีกส่วนขึ้นพักที่ เกาะหลีเป๊ะ
เกาะหลีเป๊ะ นี้สัณฐานโดยทั่วไปค่อนข้างจะเป็นเกาะที่แบนราบ
มีเนินเขาเตี้ยๆ อยู่ทางด้าน ทิศใต้และทิศตะวันตกมีสัณฐานธรณีเป็นภูเขาหินแกรนิต
และหินควอตไซส์ เช่นเดียวกันกับ เกาะอาดัง และ เกาะราวี
ส่วนตรงกลางของตัวเกาะจะเป็นที่ราบรูปกระทะหงาย ความที่ แทบจะเป็นเกาะเดียวในเขตอุทยานฯ
ก็ว่าได้ที่มีที่ราบ เกาะหลีเป๊ะจึงเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของ
'ชาวเล' มาช้านาน ชาวเลเผ่าที่มาอาศัยอยู่ที่เกาะหลีเป๊ะนี้จัดอยู่ในกลุ่มชาวเล
เผ่าอูรักลา-โว้ย ซึ่งพบกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปแถบทะเลอันดามันในภาคใต้ของประเทศไทย
ตั้งแต่ภูเก็ต กระบี่ ตรัง ไปจน ถึงสตูล มีหลักฐานอ้างอิงได้ว่า
โต๊ะฆีรี หรือ ฮีหลี เป็นชาวเลคนแรก ที่อพ-ยพมาตั้งถิ่นฐานที่นี่ในสมัยของรัชกาลที่
5 และมีพวกพ้องติดตามมาอยู่จนเป็นชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะขึ้น
โดยสืบทอดต่อกันมาแล้วถึง 3 ชั่วอายุคน
วิถีแห่งชาวเลพวกนี้ค่อนข้างจะอยู่กันแบบเรียบง่าย
ไม่มีศาสนา นับถือผีและวิญญาณ นอกจาก นี้ยังมีความเชื่อในเรื่องของโชค
และเคราะห์อีกด้วย ดังจะเห็นได้จากการที่ชาวเลจะมีพิธีไหว้ ทวด
คือไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว และมีพิธีลอยเคราะห์ ให้พ้นไปจากตัวเองและครอบ
ครัวที่เรียกว่า พิธีลอยเรือ ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในทุกวันขึ้น
15 ค่ำ เดือน 6 และเดือน 12 ของ ทุกปี
>
|