|
เชื่อว่าชายหาดด้านนี้ลมจะสงบ
และคงจะเป็นแหล่งที่ชาวเลกลุ่มที่พบเมื่อเช้าแวะเวียนมาหลบ ลมอยู่เป็นแน่
ผมแล่นเรือมาบรรจบเส้นทางเมื่อเช้าที่หัวเกาะราวีในตอนบ่ายแก่ๆของวันนั้น
ช่วงที่ข้ามร่อง น้ำระหว่างเกาะราวีกับเกาะอาดังนั้นคลื่นลมโหมกระหน่ำค่อนข้างแรงพอสมควร
และโชคดี ที่เห็นฝูงปลาใบกระโดดล้อเล่นกับคลื่นอยู่หลายครั้ง ร่องน้ำแถบนี้ถ้าเป็นช่วงคลื่นไม่จัดนักก็มัก
จะมีคนได้พบเห็นโลมาอยู่เสมอ ผมเวียนไปทางด้านทิศเหนือของเกาะอาดัง
ผ่านหาดทรายที่ ยาวเหยียดอีก 2 แห่งซึ่งหาดทรายไม่ขาวสะอาดมากนัก จากนั้นก็วนกลับมาทางด้านตะวันออก
ผ่านเกาะเหล็กและหมู่บ้านชาวเลอีกแห่งหนึ่งที่มีการลงหลักปักฐานทำสวนมะพร้าวกันมานาน
แล้ววนกลับมายังแหลมสนเป็นจุดสุดท้าย ที่นี่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนที่ไม่เคยขาดผู้คน
ของเกาะอาดังเสมอ ผมจึงพบเห็นหลายคนนำเต็นท์มาพักแรมอยู่ท่ามกลางความเงียบ
สงบอย่างน่าอิจฉา ยามค่ำคืนเขาเหล่านั้นคงจะนอนฟังเสียงสนต้องลมเพลินอารมณ์
และทุก เช้าเย็นก็คงมีใครที่ขยันปีนเขาขึ้นไปยังจุดชมวิว ผาชะโด ที่ครั้งหนึ่งผมเคยขึ้นไปมาแล้ว
และ สามารถมองเห็นเกาะ หลีเป๊ะและท้องทะเลกว้างไกลได้อย่างชนิดที่ว่าถ้าวันใดท้องฟ้าแจ่มใสก็
อาจเห็นได้ไกลถึงเกาะกลางและเกาะตะรุเตาเลยทีเดียว
สำหรับผม ค่ำคืนในดงสนบนเกาะหลีเป๊ะยังเป็นสวรรค์ของการมาเยือนครั้งนี้อย่างไม่เสื่อม
คลาย ในคืนที่สายลมโบยโบกผมก็ยังบอกกับตัวเองได้ว่ามีความรู้สึกอบอุ่นได้อย่างประหลาด
และมีความสุขที่ได้กลับมาเยือนท้องทะเลที่ผมรัก ภาพของดวงตะวันที่ลาลับขอบฟ้ายังตรา
ตรึงอยู่ในหัวใจ ภาพผู้คนที่มาที่นี่ด้วยความรัก ความรู้สึกที่ดีกับธรรมชาติยังเป็นภาพอัน
ประทับใจที่ผมไม่อาจลืมเลือน และเหนือกว่าอื่นใด ผมยังอยากเห็นภาพอันสวยงามเหล่านี้ต่อ
ไปนานเท่านานตราบที่ผู้คนทั้งหลายซึ่งย่างเหยียบมาที่นี่จะปลูกฝังความรักไว้ในหัวใจของเขา
เหล่านั้นตลอดกาล >
|