ไวน์ VS อะดรีนาลีน


	Job l Good Heart l Work Hard	GO TO

จากนั้นให้ไวน์ตกตะกอนด้วยความเย็นแล้วกรองอย่างละเอียดอีกครั้ง จนได้ไวน์ที่พร้อมบรรจุขวดแปะยี่ห้อออกมา ซึ่งขวดแก้วของ PB นั้นนำเข้าจากฝรั่งเศส ถังไม้โอ๊กก็มาจากฝรั่งเศส จุกก๊อกมาจากโปรตุเกส ถังสเตนเลสมาจากอิตาลี ฟังดูแล้วเหมือนการรวมตัวเพื่อแข่งบอลโลกยังไงยังงั้น...
     เห็นเค้าทำกันเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่แบบนี้ เค้ามี Wine Maker คนไทย 2 คนที่จบการศึกษาจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เพื่อมาดูเรื่องรสชาติของไวน์ และไวเนอรีนี้สามารถผลิตไวน์ได้ถึงปีละ 150,000 ขวด วันนี้เราได้ลองชิมดู หรือเรียกว่า Wine Testing มี 4 ตัวคือ PB Khao Yai Reserve เซนิน บลอง 2008, Pirom Khao Yai Reserve เทมปรานิลโล 2007 , PB Khao Yai Reserve ซีราส 2007 และ Pirom Khao Yai Reserve เซนิน บลอง 2007
     ไวน์ไม่ใช่เครื่องดื่มแบบเอะอะกระดก ก่อนชิมจึงต้องมีการถ่ายทอดวิชาตั้งแต่การจับแก้วไวน์ไปจนถึงหลัก 3 ด อันประกอบไปด้วย ดู ดม ดื่ม ให้กับมือใหม่เอี่ยมอย่างฉันก่อน
     การจับแก้วไวน์นั้นมี 3 ลักษณะคือ แบบบิกินเนอร์ จับตรงก้านแก้ว แบบนักการทูตหรือนักธุรกิจ จับตรงก้านแต่แอบเอาก้อยช้อนฐานรองไวน์ไว้ และแบบกูรู คือจับตรงก้านฐานอย่างเดียวโดยใช้นิ้วโป้งหนีบฝั่งหนึ่งของฐานไว้ แล้วรองใต้ฐานด้วยนิ้วที่เหลือ การที่จับแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้อุณหภูมิของมือเราไปมีปฏิสัมพันธ์ใดๆกับอุณหภูมิของไวน์เลย รสชาติจะได้ออริจินอล
     ส่วนหลักการณ์ 3 ด นั้น ด แรก คือดู เราต้องดูสีสันของไวน์ สีเข้ม อ่อน ออกแดง ออกม่วงอย่างไร รวมไปถึงยี่ห้อหรือชนิดไวน์ที่เราเลือกด้วย ถ้าเป็นตามห้องอาหารก็คือการเช็คว่ายี่ห้อที่บริกรนำมานั้นถูกต้องตามสั่งและไม่มีการเปิดมาก่อนเสิร์ฟ
     ด ที่ 2 คือการดมด้วยจมูกในขั้นแรกก่อนว่าได้กลิ่นอะไรในแก้วบ้าง จากนั้นลองแกว่ง ( Swirl ) ไวน์ในแก้วแล้วดมอีกทีซิว่ามีกลิ่นอะไรเพิ่มขึ้มมา หรือมีกลิ่นอะไรหายไปบ้าง การทำอย่างนี้เรียกอีกอย่างว่าการปลุกไวน์ คือการแกว่งให้ไวน์ที่รินในแก้วได้ทำปฏิกิริยากับอากาศไวน์ในแก้วจะเผยกลิ่นกรุ่นที่แท้จริงออกมาเพื่อให้ดมได้ด้วยจมูก จากนั้นจึงมา

ถึง ด สุดท้าย ด ที่ 3 คือการดื่มเพื่อให้ได้รู้รส วิธีที่ถูกต้องคือการได้กลั้วในปากแต่เพราะนี่คือไวน์ไม่ใช่ลิสเตอรีน จึงเป็นการสุดอากาศเข้าทางปากเพื่อให้สัมผัสกับไวน์ที่เราอมไว้ แล้วทำปากแจะๆเหมือนเวลานกกินน้ำ (โปรดเข้าใจผู้เขียนที่พยามยามให้คุณเห็นภาพ) ไม่ต้องเหนียมอาย เพราะใครๆเขาก็ทำกัน (นึกปลอบใจตัวเอง) ยิ่งเซียนเท่าไหร่ยิ่งใช้เวลานาน เพื่อลิ้มอรรถรสอันซับซ้อนของไวน์ตัวนั้นให้มากขึ้น กลิ่นหรือรสชาติพิเศษก็จะได้รู้กัน ณ ขั้นตอนแจ๊ะๆนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็นความหวาน ( sweetness ) ความเฝื่อนฝาด (Tannin) ความเป็นกรด (Acidity) ความหนักเบา (Body) และช่วงความยาวนานที่รสชาติไวน์ตกค้างบนลิ้น (Length) เป็นต้น
หลังจากที่ดำเนินการมามากกว่า 20 ปี ไวน์ของไร่พีบีได้รับรางวัลมากมาย เช่น ในงาน AWC 2007 (Austrian Wine Competition ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรเลีย) Pirom Khao Yai Reserve Tempranillo 2006 ได้รับคัดเลือกให้เป็นไวน์ในระดับเหรียญทอง และ PB Khao Yai Reserve Shiraz 2003 ได้เหรียญทองเป็นสมัยที่ 2 ส่วนตัวที่ขายดีมากที่สุด PB Khao Yai Reserve Shiraz เหมือนกันแต่เป็นของปี 2007 ราคา 590 บาท
นอกจากจะโดดเด่นเรื่องไวน์ และไร่องุ่นอันกว้างใหญ่แล้ว เรื่องอาหารเขาก็เยี่ยม นอกจากกาสะลองที่ด้านบน ยังมี Great Horn Bill เป็นอีกหนึ่งในร้านอาหารที่เลี้ยวรถเข้ามาในอาณาจักร (ขอเรียกแบบนี้แล้วกัน) ก็จะได้เห็นทันที กว่าจะเลือกอาหารจานเด่นออกมาทั้ง 100 เมนูก็ทำเอาตาลาย ฉันเลยเลือกแบบ Chef’s recommended อาหารบนโต๊ะทยอยมาเรื่อยๆ จนเต็มโต๊ะ

อ่านต่อหน้า 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11