“องุ่นปลูกได้ทุกที่แหละ” คุณวิสุทธิ์ โลหิตนาวี ประธานฝ่ายปฏิบัติการและกรรมการผู้จัดการ (เรียกสั้นกว่านั้นว่าเจ้าของ) ไร่องุ่นกราน-มอนเต้ตอบ เมื่อเราถามว่าองุ่นปลูกที่ไหนได้บ้าง “แต่ปลูกแล้วจะได้ผลผลิตแค่ไหนเท่านั้นเอง”
เรามาถึงกราน-มอนเต้ในช่วงบ่ายที่แสงอาทิตย์ไม่เจิดจ้า และไอร้อนนั้นยังคงมาตรฐานอากาศร้อนเมืองไทย ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับไร่องุ่นร้อยกว่าไร่ตรงหน้า เพราะต้นองุ่นนั้นสามารถเจริญเติบโตได้ดีในเขตหนาว เขตกึ่งร้อนกึ่งหนาว และเขตร้อน การจัดวางแปลงองุ่นอย่างมีระเบียบ เถาองุ่นสีเขียวอ่อน ลำต้นสีน้ำตาล เข้มดูแข็งแรงนั้นได้รับการตัดแต่งอย่างดี ทำให้เรารู้ว่าเราเจอตัวจริงเข้าให้แล้ว กราน-มอนเต้แปลว่าภูเขาใหญ่ในอิตาเลียน เกิดจากความฝันในการจะเป็นเจ้าของไร่องุ่นตั้งแต่คุณวิสุทธิ์ ยังศึกษาอยู่ประเทศเยอรมนี นักเรียนเก่าเยอรมนีท่านนี้นิยมที่จะจิบไวน์มากว่าดื่มเบียร์เยอรมัน จึงสานฝันด้วยการเปลี่ยนพื้นที่ที่เคยปลูกข้าวโพดกว่า 100 ไร่ให้กลายเป็นแปลงองุ่นที่สวยงามมีระเบียบ และเป็นไรองุ่นที่ยืดอกประกาศได้อย่างเต็มภาคภูมิใจว่าที่นี่ไม่ใช่ไร่ที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นแบบคิดเอาเองหรือทำตามความรู้สึก แต่จะใช้องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อให้ที่ดีที่สุด ดังจะเห็นได้ว่าที่นี่เป็นไร่องุ่นหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ติดตั้งเครื่องสุดไฮเทค (และราคาสูงกว่าเงินเดือนของฉัน 5 ปีรวมกัน) ชื่อ Micro Climate หรือเครื่องวัดความชื้นในอากาศซึ่งเชื่อมโยงกับดาวเทียม จะเครื่องสุดฉลาดนี้จะคอยแจ้งว่าจะมีฝนตกหรือไม่ ความชื้นในอากาศเป็นอย่างไร และจะช่วยคิดให้อีกว่าควรจะลดน้ำต้นองุ่นหรือเปล่า ป้องกันการใช้ความรู้สึกตัดสินว่าต้นองุ่นทั้งหมด 40,200 ต้นในไร่ต้องการรดน้ำ อันจะนำมาซึ่งการรดน้ำเกินจำเป็นและสูญเปล่า (อย่างมหาศาล)