
ในยุคที่หลายองค์กรต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีระบบตรวจสอบภายใน (Internal Audit) ที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ โดยไม่เพียงช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง แต่ยังช่วยเพิ่มศักยภาพการดำเนินงานไปในทิศทางที่เหมาะสม และลดความเสี่ยงในแต่ละกระบวนการ เปรียบเสมือนการสร้างกำแพงป้องกันความเสี่ยงและการทุจริต เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
Internal Audit สำคัญอย่างไร ทำหน้าที่ตรวจอะไรบ้าง ?

การตรวจสอบภายในคืออะไร ?
การตรวจสอบภายใน (Internal Audit) คือกระบวนการประเมินและปรับปรุงการดำเนินงานขององค์กร โดยมีเป้าหมายเพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรมีการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส สอดคล้องกับกฎหมายและนโยบายที่กำหนด ตามที่สถาบันผู้ตรวจสอบภายใน (The Institute of Internal Auditors: IIA) ระบุไว้ อีกทั้ง การตรวจสอบภายในยังช่วยสนับสนุนการบริหารความเสี่ยงและเพิ่มคุณค่าให้แก่องค์กร
บทบาทของการตรวจสอบภายในองค์กร
การมีระบบตรวจสอบภายในที่เข้มแข็งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจ เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาวขององค์กร โดยมีบทบาทสำคัญ ดังนี้
1. การประเมินความเสี่ยง
การตรวจสอบภายในมีบทบาทสำคัญในการระบุและวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานขององค์กร เช่น ความเสี่ยงด้านการเงิน การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือความเสี่ยงทางเทคโนโลยี ผู้ตรวจสอบภายในจะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลและนำเสนอแนวทางจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
2. การควบคุมภายใน
หนึ่งในหน้าที่หลักของการตรวจสอบภายใน คือ การตรวจสอบว่ากระบวนการภายในขององค์กรสอดคล้องกับกฎระเบียบ มาตรฐาน และนโยบายที่กำหนดไว้หรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่ามีการดำเนินงานที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ
3. การกำกับดูแล
การตรวจสอบภายในเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผู้บริหารในการตัดสินใจ โดยใช้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ โดยเสนอแนะวิธีการปรับปรุงกระบวนการและแนะนำแนวทางที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่องค์กร สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้น หรือคู่ค้า ว่าองค์กรมีการจัดการและการกำกับดูแลที่เหมาะสม
Internal Audit ตรวจอะไรบ้าง ?
การตรวจสอบภายใน (Internal Audit) เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคง โดยจะทำการตรวจสอบในเรื่องสำคัญ ดังต่อไปนี้
1. การตรวจสอบการเงิน
การตรวจสอบการเงินจะช่วยประเมินความถูกต้อง ความสมบูรณ์ รวมถึงความน่าเชื่อถือของข้อมูลทางการเงิน เช่น การตรวจสอบงบการเงิน รายงานบัญชี การจัดการสินทรัพย์ เพื่อป้องกันการรั่วไหล หรือการสูญเสียทรัพย์สินขององค์กร
2. การปฏิบัติงาน
กระบวนการดำเนินงานในองค์กรเป็นอีกส่วนที่ผู้ตรวจสอบภายในให้ความสำคัญ เพื่อประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกระบวนการทำงาน โดยจะวิเคราะห์ขั้นตอนการทำงานทั้งหมดเพื่อลดความซับซ้อนและขั้นตอนที่ไม่จำเป็น รวมถึงเสนอแนวทางการปรับปรุง
3. การปฏิบัติตามกฎหมาย
การตรวจสอบให้มั่นใจว่าองค์กรปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และนโยบายที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ตรวจสอบภายในจะประเมินว่ากระบวนการและกิจกรรมขององค์กรเป็นไปตามข้อกำหนดที่ระบุไว้หรือไม่ เช่น การตรวจสอบว่าการเก็บรักษาข้อมูลลูกค้าเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)

ประโยชน์ของการมีระบบตรวจสอบภายในที่มีประสิทธิภาพ
ระบบตรวจสอบภายในที่ดี เปรียบเสมือนกลไกสำคัญที่สนับสนุนองค์กรให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีประโยชน์สำคัญ ดังนี้
1. เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
ระบบตรวจสอบภายในสามารถช่วยลดข้อผิดพลาดในการดำเนินงาน และสนับสนุนให้กระบวนการภายในองค์กรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะช่วยวิเคราะห์กระบวนการทำงานในแต่ละส่วน เพื่อลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนและปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น การลดเวลาการอนุมัติเอกสาร หรือการปรับใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในงาน
2. ลดความเสี่ยง
ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงจากการทุจริต ข้อผิดพลาด หรือภัยคุกคามทางเทคโนโลยี ผู้ตรวจสอบภายในจะช่วยระบุจุดอ่อนในกระบวนการ พร้อมทั้งเสนอแนวทางป้องกันปัญหา เช่น การแนะนำระบบการจัดการข้อมูลที่ปลอดภัย หรือการตรวจสอบให้มั่นใจว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
3. สร้างความเชื่อมั่น
ความโปร่งใสในการดำเนินงาน เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งผู้บริหารและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ระบบตรวจสอบภายในที่มีประสิทธิภาพช่วยให้มั่นใจได้ว่ากระบวนการทำงานเป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานที่กำหนดไว้ โดยการรายงานผลการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมายังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่องค์กร เช่น การแสดงให้เห็นถึงการจัดการงบประมาณอย่างเหมาะสมและโปร่งใส
คุณสมบัติของผู้ตรวจสอบภายใน
การเป็นผู้ตรวจสอบภายในไม่เพียงต้องวิเคราะห์ข้อมูลหรือประเมินผลอย่างละเอียดรอบคอบเท่านั้น แต่ยังต้องมีคุณสมบัติและทักษะเฉพาะตัวที่ช่วยให้งานตรวจสอบดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ดังนี้
- ทักษะในการสื่อสาร เพื่อให้สามารถอธิบายข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย พร้อมทั้งเสนอแนวทางแก้ไขที่ชัดเจน เช่น การสื่อสารและให้คำแนะนำแก่ผู้บริหาร หรือการนำเสนอผลการตรวจสอบในรูปแบบที่เข้าใจง่ายสำหรับทีมงานในระดับปฏิบัติการ
- ความเป็นกลางและยุติธรรม ผู้ตรวจสอบต้องไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในกระบวนการที่ตรวจสอบและต้องสามารถตัดสินใจหรือให้คำแนะนำบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและข้อมูลที่ถูกต้อง
- ความเชี่ยวชาญ โดยต้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขาที่เกี่ยวข้องกับงานตรวจสอบ เช่น การบัญชี การเงิน รวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้สามารถเจาะลึกและตรวจสอบในรายละเอียดที่สำคัญได้อย่างแม่นยำ
เรียกได้ว่าบทบาทนี้เป็นหนึ่งในตำแหน่งที่มีความสำคัญและเป็นที่ต้องการสูงของแต่ละองค์กร สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในการหางานตรวจสอบภายใน หรือ หางาน Internal Audit สามารถสมัครงานพร้อมสร้าง Super Resume ผ่าน JOBTOPGUN ได้แล้ววันนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสทำงานกับบริษัทชั้นนำ ด้วยการพิจารณาจากรีวิวจริงที่จะช่วยให้คุณรู้จักบริษัทมากขึ้นก่อนส่งใบสมัคร สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-853-6999