ปฏิวัติการจ้างงาน: Super Resume กับ “Hire Better, Powered by Truth”
คุณวริศ พูดบนเวทีเรื่อง Super Resume กับ AI วิเคราะห์บุคลิกภาพจากงานอดิเรก | Hire Better, Powered by Truth

             ปัญหาการจ้างงานที่หลายบริษัทยังเจออยู่ ตลาดงานไทยแข่งขันสูงมาก เมื่อมีใบสมัครเป็นร้อยใบ HR หลายคนจึงใช้วิธี “เลือกแบบเซฟ” คือเลือกคนที่ดูดีในกระดาษ มาจากมหาวิทยาลัยดัง เกรดสูง ประสบการณ์จากบริษัทชื่อดัง ประวัติสะอาด แต่จริงๆ แล้วคนที่ดูดีในกระดาษอาจไม่ใช่คนที่เข้ากับงานหรือวัฒนธรรมองค์กรจริงๆ

             Resume แบบเดิมบอกได้แค่ข้อมูลพื้นฐาน – ชื่อ เบอร์ติดต่อ การศึกษา ประสบการณ์ทำงาน ทักษะต่างๆ แต่ไม่ได้บอกว่าคนนี้เป็นคนแบบไหน คิดยังไง มีแรงจูงใจอะไร ทำงานสไตล์ไหน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำงานร่วมกันในระยะยาว

             ผลลัพธ์คือ คนเก่งหลายคนที่ไม่มีประวัติ “สมบูรณ์แบบ” กลับไม่ได้รับโอกาส ในขณะที่คนที่ได้งานอาจไม่ได้เป็นคนที่เหมาะสมที่สุดจริงๆ

ปฏิวัติการจ้างงาน: Super Resume กับ “Hire Better, Powered by Truth”

ทำไมการ “เข้ากันกับองค์กร” ถึงสำคัญ

             การวิจัยจาก UC Berkeley พิสูจน์อย่างชัดเจนว่า เมื่อพนักงานรู้สึกว่าตัวเองเข้ากับองค์กรจริงๆ (person-organization fit) จะส่งผลดีในหลายด้าน:

  • ประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น เพราะพนักงานมีแรงจูงใจในการทำงาน
  • ความผูกพันกับองค์กรมากขึ้น ทำให้เต็มใจทุ่มเทให้กับงาน
  • อัตราการลาออกลดลง ประหยัดค่าใช้จ่ายในการสรรหาและฝึกอบรมคนใหม่

             นี่คือสิ่งที่ทุกบริษัทต้องการ แต่ปัญหาคือ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนไหนจะเข้ากับองค์กรเรา

Super Resume ใหม่แก้ปัญหาอย่างไร

             Super Resume เคยมีมานาน 26 ปีแล้ว แต่เวอร์ชั่นเก่าอาจจะมีปัญหาคือข้อมูลไม่ชัดเจน ดูยากเกินไป ทำให้ HR ยังต้องใช้เวลานานในการทำความเข้าใจ

             Super Resume ตัวใหม่จึงถูกออกแบบมาใหม่ทั้งหมด โดยเพิ่มมิติใหม่เข้าไป 3 ส่วนหลัก:

1. New Layout – การจัดวางข้อมูลใหม่

ไม่ใช่แค่ปรับรูปแบบให้สวย แต่เน้นให้เห็นข้อมูลสำคัญได้เร็วขึ้น:

  • Profile & Contact – ข้อมูลพื้นฐานแต่เพิ่มบุคลิกภาพเข้าไป
  • What Drives Me – แรงจูงใจในการทำงาน ไม่ใช่แค่ว่าทำอะไรได้ แต่ทำไมถึงอยากทำ
  • Experience – ไม่แค่ระบุหน้าที่ แต่เล่าถึงสภาพแวดล้อมการทำงานที่เคยอยู่
  • Education – ไม่แค่บอกว่าเรียนที่ไหน แต่เรียนรู้อะไรบ้างจากการศึกษา
  • Skills & Keywords – จัดหมวดหมู่ให้อ่านเข้าใจง่าย ไม่ต้องเดา

2. Strengths Profile – จุดแข็งจริงจากการประเมินเชิงลึก

ไม่ใช่การเขียนประโคมตัวเอง แต่มาจากการประเมินตัวเองอย่างจริงจัง:

  • ใช้ TOPGUN Strengths Assessment ที่มีโครงสร้างชัดเจน
  • AI จะช่วยแปลความว่าจุดแข็งแต่ละอย่างจะแสดงออกในการทำงานอย่างไร
  • ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบุคลิกภาพที่เกี่ยวข้องกับการทำงานจริง

3. Skillprint from Hobbies – วิเคราะห์บุคลิกจากงานอดิเรก

นี่คือจุดเด่นที่น่าสนใจมาก:

  • AI วิเคราะห์งานอดิเรกแล้วบอกว่าเปิดเผยบุคลิกภาพและ soft skills อะไรบ้าง
  • งานอดิเรกเป็นสิ่งที่คนเลือกทำเองด้วยใจรัก จึงสะท้อนตัวตนที่แท้จริง
  • ช่วยให้เห็นว่าคนนี้จะเติบโตไปในทิศทางไหน

TOPGUN Strengths Assessment ทำงานอย่างไร

เครื่องมือนี้พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ มีกระบวนการ 4 ขั้นตอน:

ขั้นตอนที่ 1: Discover – ให้เลือกลักษณะต่างๆ ที่รู้สึกว่าตรงกับตัวเอง
ขั้นตอนที่ 2: Reflect & Select 25 – เลือก 25 ลักษณะที่สะท้อนตัวตนจริงๆ
ขั้นตอนที่ 3: Refine to 12 – กรองลงมาเหลือ 12 จุดแข็งที่สำคัญที่สุด
ขั้นตอนที่ 4: Rank Top 5 – จัดลำดับ 5 อันดับแรกที่แสดงถึงตัวตนมากที่สุด

กระบวนการนี้บังคับให้คนต้องคิดอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่เลือกคำตอบที่ดูดี ผลลัพธ์ที่ได้จึงแม่นยำและน่าเชื่อถือ

ที่สำคัญคือ มันเป็นคู่มือสัมภาษณ์ให้ HR ด้วย แนะนำว่าควรถามคำถามอะไรตามลักษณะของคนๆ นั้น

งานอดิเรกทำนายการทำงานได้จริง ?

คำตอบคือ ได้! และนี่คือสิ่งที่น่าสนใจมาก

การวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลพิสูจน์ว่า งานอดิเรกเปิดเผย soft skills ที่แท้จริงของคน เพราะมันคือสิ่งที่เขาเลือกทำเองด้วยใจรัก ไม่ใช่เพราะถูกบังคับหรือเพื่อประโยชน์อะไร

ตัวอย่างเช่น:

  • คนที่ชอบทำอาหารมักเป็นคนที่มี initiative, creative, และสามารถจัดลำดับความสำคัญได้ดี
  • คนที่เลี้ยงสัตว์มักใจดี ชอบช่วยเหลือ และรับผิดชอบ
  • คนที่ชอบวิ่งออกกำลังกายมักมีวินัย สม่ำเสมอ และทำงานได้อย่างอิสระ

ข้อมูลแบบนี้มีค่ามากสำหรับการทำนายว่าคนๆ นั้นจะทำงานสไตล์ไหน เข้ากับทีมได้หรือไม่

ผลลัพธ์ที่ HR จะได้รับ

Personality Portrait – ภาพรวมบุคลิกภาพที่ชัดเจน
Core Identity – ตัวตนหลักของคนๆ นั้น
Best Role – บทบาทที่เหมาะสมที่สุดตามลักษณะนิสัย
Interview Guide – คำถามที่ควรถามในการสัมภาษณ์เฉพาะคน

ตัวอย่างคำถามที่ระบบอาจแนะนำ:

  • “คุณได้เรียนรู้อะไรจากการเป็นผู้นำคนอื่นมาบ้าง?”
  • “งานอดิเรกที่เงียบๆ ของคุณมีอิทธิพลต่อสไตล์การทำงานอย่างไร?”
  • “ความคาดหวังเงินเดือนนี้มาจากผลงานอะไรที่คุณเชื่อว่าสร้างได้?”

คำถาม FAQ

Q: Super Resume แตกต่างจาก Resume ปกติอย่างไร ?

A: Resume ปกติแค่บอกข้อมูลพื้นฐาน ส่วน Super Resume เพิ่มมิติเฉพาะตัวของแต่ละบุคคลเข้าไป ได้แก่ บุคลิกภาพจริงจากการประเมินจากความชอบ งานอดิเรก ที่ AI วิเคราะห์ และมีคู่มือสัมภาษณ์ที่แนะนำ HR ว่าควรถามคำถามอะไรเฉพาะบุคคล

Q: AI วิเคราะห์งานอดิเรกได้แม่นยำแค่ไหน ?

A: แม่นยำ เนื่องจาก AI นำข้อมูลจากการวิจัยเริ่มกับมหาวิทยาลัยมหิดลพิสูจน์ว่า งานอดิเรกสะท้อน soft skills ที่แท้จริง เพราะเป็นสิ่งที่เราเลือกทำด้วยใจรัก นำมาใช้ในการวิเคราะห์

Q: HR จะใช้ข้อมูลใน Super Resume อย่างไร ?

A: HR จะได้รับ Personality Portrait เพื่อเห็นภาพรวมบุคลิกภาพ คำแนะนำตำแหน่งที่เหมาะสม คำถามเฉพาะที่ควรถามในสัมภาษณ์ และการประเมินว่าจะเข้ากับทีมปัจจุบันได้หรือไม่ ช่วยให้ตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น ลดการเดา และเลือกคนที่เหมาะสมจริงๆ

                Super Resume ใหม่ไม่ได้แค่เปลี่ยนรูปแบบ แต่เปลี่ยนแนวคิดการจ้างงานจาก “การเดา” เป็น “การรู้จริง” เมื่อ HR เข้าใจคนมากขึ้น จะเลือกได้แม่นยำขึ้น ได้คนที่เหมาะสมจริงๆ ไม่ใช่แค่คนที่ปลอดภัย ผลลัพธ์คือทั้งบริษัทและพนักงานมีความสุขมากขึ้น ประสิทธิภาพดีขึ้น และทุกคนอยู่ได้นานขึ้น

                Super Resume ใหม่เปิดให้ใช้ฟรีทุกคน เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสแสดงตัวตนที่แท้จริง และเพื่อให้ทุกบริษัทได้เข้าถึงเครื่องมือการจ้างงานที่ดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ตลาดงานไทยพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยให้ความสำคัญกับความเหมาะสมมากกว่าการดูแค่ประวัติภายนอก ผู้สมัครสามารถสร้างโปรไฟล์แบบนี้ได้เองที่ //www.superresume.com/th และ HR สามารถเห็นข้อมูลนี้ได้ทันทีเมื่อเปิดโปรไฟล์ของผู้สมัคร หางานบริษัทชั้นนำทั่วประเทศได้ที่ JOBTOPGUN

สมัครงานกับบริษัทชั้นนำทันที สร้าง Super Resume (ใบสมัครงาน) เลย ฟรี!

คำค้นหายอดนิยม

..