คนชอบ “วิ่ง” เป็นคนแบบไหน?

การวิ่ง กีฬาที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก หลายคนวิ่งเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง ปลอดจากโรคภัยต่างๆ หรืออาจจะมีคนที่วิ่งเพื่อการแข่งขัน แต่รู้หรือไม่ว่า…การได้วิ่งอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยฝึกทักษะด้านอื่นๆให้กับคุณด้วย วันนี้ JOBTOPGUN จึงอยากจะแชร์ให้คุณทราบว่าดนตรี กีฬา และงานอดิเรกแต่ละประเภทจะช่วยฝึกฝนทักษะความสามารถเรื่องใดให้คุณบ้าง ทักษะเหล่านี้คุณควรมีโดยที่คุณอาจจะยังไม่รู้ตัว ซึ่งผลการวิเคราะห์นี้มาจากงานวิจัยของท็อปกันร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล โดยมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามถึงกว่า 20,000 คน มาดูกันว่าคนชอบ “วิ่ง” เป็นคนแบบไหนและฝึกอะไรให้คุณบ้าง..

1. อดทน
ส่วนมากคนที่ต้องการจะออกกำลังกาย จะเริ่มต้นด้วยการวิ่ง เพราะเป็นกีฬาที่ง่ายที่สุด จากที่วิ่งได้ระยะทางใกล้ ๆ ในช่วงแรกจะช่วยกระตุ้นให้คนที่วิ่ง ต้องการที่จะวิ่งให้ได้ในระยะไกลขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าจะทำในจุดนี้ให้ได้ ก็ต้องอาศัยความอดทนของผู้วิ่ง เพราะไม่ใช่ว่าวิ่งกันไม่กี่ครั้ง ก็จะสามารถวิ่งให้ได้ไกล ดังนั้นความสม่ำเสมอในการวิ่งก็ต้องอาศัยความอดทนด้วยเช่นกัน
การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ค่อนข้างต้องใช้ความอดทน เพื่อให้วิ่งได้ระยะทางไกลขึ้น วิ่งได้นานขึ้นความเหนื่อยเมื่อยล้าก็ย่อมมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นหากผู้วิ่งไม่มีความอดทน ก็คงไม่สามารถวิ่งได้ระยะทางตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ดังนั้นการวิ่งจึงช่วยฝึ กความอดทนของร่างกาย และจิตใจให้กับผู้วิ่งได้เป็นอย่างดี

2. บุคลิกดี
ทำให้สภาพร่างกายในแต่ละวันมีความคล่องแคล่ว ไม่แสดงความอิดโรยห่อเหี่ยวออกมาภายนอกโดยไม่รู้ตัวการวิ่งเป็นประจำทำให้เกิดความสมดุลของร่างกาย การเดิน การวิ่ง ช่วยสร้างบุคลิกภาพของเราได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้เรามีบุคลิกดี ซึ่งจำเป็นมากในการทำงานเนื่องจากก่อนที่จะได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง การที่มีบุคลิกดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง

3. กระตือรือร้น
หากเรามีความกระตือรือร้นแล้วก็เปรียบเหมือนกับการวิ่งตรงที่เราสามารถเพิ่มความเร็วในการวิ่งไประดับต่าง ๆ ได้เรื่อยๆ จากที่เราวิ่งผ่อนเบา ๆ ก็เพิ่มความเร็วขึ้น เหมือนกับตัวเราหากเรามีความกระตือรือร้น เราก็พยายามให้มากขึ้น เหมือนเราเพิ่มความเร็วในการวิ่งนั้นเอง การวิ่งทำให้คนกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา ร่างกายต้องขยับอยู่ตลอดส่งผลต่อชีวิตประจำวัน ทำให้เป็นคนที่กระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีแรงในการทำงาน

4. ทะเยอทะยานที่จะประสบความสำเร็จ
เมื่อมีเป้าหมาย หรือรู้ว่าเส้นชัยอยู่ที่ไหน สิ่งนั้นจะเป็นแรงผลักดันให้นักวิ่ง วิ่งไปถึงจุดนั้นอย่างเร็วที่สุดในการวิ่งนั้น ขณะออกกำลังกายเราจะคิดถึงจุดมุ่งหมายเสมอ เช่น เราต้องวิ่งให้ได้ 10 รอบ วิ่งติดต่อกันให้ได้ 30 นาทีเป็นต้น ทำให้เราต้องเป็นคนที่พยายามฝ่าฟันอุปสรรค(ความเหนื่อยอ่อนล้า) แล้วพยายามให้ถึงจุดมุ่งหมายไปให้ได้(เป้าหมายที่เราตั้งไว้) ในการทำงานก็เช่นกัน เราสามารถนำการวิ่งมาปรับใช้ได้ เราต้องมีเป้าหมายไว้ เช่น อีก 5 ปี ข้างหน้าเราต้องเป็นหัวหน้าในสายงานให้ได้ เราจึงต้องพยายามขยัน ตั้งใจทำงานเพิ่มมากขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายที่เราวางไว้

5. มีวินัย
การวิ่งต้องมีวินัยหากไม่มีวินัยแล้ว ก็จะไม่สามารถที่จะชนะการแข่งขันได้ (ซ้อมตามโปรแกรมที่วางแผนไว้สำหรับวิ่งแข่งขัน) สำหรับการวิ่งเพื่อสุขภาพต้องมีวินัย โดยต้องวิ่งในครบตามระยะทางที่กำหนดไว้ เช่น ต้องวิ่งอย่างน้อยวันละไม่ตํ่ากว่า 5.0 กม.นับได้ว่าการวิ่งเป็นการสร้างความมีวินัยให้คนชนิดหนึ่ง เนื่องจากต้องวิ่งอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันจึงจะเกิดผลดีกับร่างกาย จึงต้องมีวินัยในการออกกำลังกาย ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง การมีวินัยจะช่วยให้เกิดความเคยชิน และความท้าทายใหม่ๆเมื่อร่างกายเริ่มสามารถออกกำลังกายได้มากขึ้น ทำให้เราอยากออกไปวิ่งเป็นประจำ

6. มุ่งทางานให้เสร็จตามเป้าหมา
ปกติแล้วตัวผมเองจะวิ่งครั้งละ 40 นาทีต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้ความมุ่งมั่นอย่างยิ่ง ในการวิ่งให้ได้ตามเป้าหมายความรู้สึกตรงนี้หลายครั้งได้นำมาใช้กับงานในการแข่งขัน ถึงแม้ว่าเรารู้ตัวว่าเราจะแพ้แล้วแต่เราจำเป็นต้องวิ่งให้ถึงเส้นชัย เปรียบเหมือนกับการทำงานถึงแม้ว่าเวลาจะเหลืออีกไม่กี่ชั่วโมง เราต้องทำให้เสร็จตามเป้าหมายที่เราวางไว้

7. ไม่เคยล้มเลิกความตั้งใจ
ในการจะวิ่งให้ได้ตามรอบที่ตั้งใจไว้ ต้องใช้ความพยายาม และความตั้งใจ หากเหนื่อยแต่ยังวิ่งได้ไม่ครบรอบก็อาจจะเลิกไป แต่ถ้าไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะวิ่งแต่แรก ก็จะวิ่งได้ตามรอบที่ ได้ตั้งไว้ เพราะว่าถึงแม้ว่าเราจะวิ่งได้เวลาที่ไม่ค่อยดีนัก แต่นักวิ่งทุกคนก็มีความตั้งใจที่เหมือนกันคือ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องวิ่งไปถึงเส้นชัยให้ได้

8. มีพัฒนาการในตนเองสูง
การวิ่งในลู่วิ่งเป็นการวิ่งที่เราจะต้องแข่งกับเวลา เพื่อที่จะทำเวลาให้ดีที่สุด จึงทำให้เราจะต้องมีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ตอนที่เราเริ่มวิ่งในช่วงแรก เราอาจจะเริ่มวิ่งรอบสวนสาธารณะ 1 รอบในครั้งแรก ต่อมาเมื่อเริ่มชิน ก็เพิ่มเป็น 2 รอบ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะไม่มากนัก แต่ก็ทำให้ทราบว่าคนเรานั้นไม่ควรหยุดนิ่งที่จะพัฒนาตัวเองควรหาสิ่งใหม่ๆ เรียนรู้ และลงมือปฏิบัติ

9. มีมนุษย์สัมพันธ์ดี
การวิ่งออกกำลังกายตามสวนสาธารณะต่าง ๆ ทำให้ได้รู้จักผู้คนมากมาย เริ่มจากการยิ้ม ทักทาย และ ทำความรู้จัก ซึ่งเป็นจุดเริ่มของการสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ถึงแม้การวิ่งนั้นเราจะวิ่งคนเดียวก็ตาม แต่บรรยากาศ หรือสถานที่ที่เราวิ่งนั้นจะมีคนร่วมวิ่งอยู่ด้วย แล้วส่วนใหญ่ก็จะเริ่มต้นจากการทักทายพูดคุย นำไปสู่การสร้างมิตรภาพหรือมนุษยสัมพันธ์นั้นเอง เพราะพื้นฐานของการออกกำลังกายนอกจากเพื่อสุขภาพแล้ว ยังมีส่วนในเรื่องของการพัฒนาอารมณ์อีกด้วย

10. มีความยืดหยุ่นและปรับตัวเก่ง
การวิ่งเปรียบเสมือนการเคลื่อนไหว ทำให้รู้สึกถึงความไม่อยกูั่บที่ มีความยืดหยุ่น และปรับตัวเก่ง ให้เข้ากับสภาพแวดล้อม หรือสถานการณ์ต่างๆได้ การวิ่งเป็นการออกกำลังกายกับร่างกายครบทุกส่วน จึงมีผลทำให้สภาพจิตใจยืดหยุ่น และปรับตัวให้เข้ากับสภาวะใหม่ๆได้รวดเร็วด้วย

หากคุณชอบวิ่งเป็นประจำหรือกำลังเริ่มวิ่งเป็นงานอดิเรก อย่าลืมเข้าไปอัพเดตดนตรี กีฬา งานอดิเรก (Competency) ผ่าน Super Resume ของคุณได้เลย ที่นี่ เพื่อให้คุณรู้จักตัวตนของคุณมากขึ้นผ่านงานอดิเรกที่คุณทำอยู่ หรือหากคุณยังไม่มีเรซูเม่ ลงทะเบียนสมัครสมาชิกฟรีพร้อมทำเรซูเม่ได้ง่ายๆ ที่ www.superresume.com

สมัครงานกับบริษัทชั้นนำทันที สร้าง Super Resume (ใบสมัครงาน) เลย ฟรี!

คำค้นหายอดนิยม

..