เราเริ่มฝึกเดินม้าวนไปวนมารอบสนาม ฝึกหยุด บังคับเลี้ยวซ้าย-ขวา เดินทแยง เร่งความเร็วจากเดินเป็น ทร็อต (trot) หรือวิ่งเหยาะ ลักกี้ทำให้บ่ายวันนี้เป็นมากกว่าช่วงเวลาแห่งการเรียนขี่ม้า มันเป็นเวลาที่ฉันพยายามเรียนรู้อารมณ์ของม้าตัวหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนที่ไม่สันทัดการเข้าถึงหัวใจของสิ่งมีชีวิตใดๆ แต่ดูเหมือนลักกี้จะรับรู้ได้ว่าคนซึ่งนั่งอยู่บนหลังนั้นมีความรู้สึกที่ดีมอบให้อย่างเหลือเฟือ มันจึงทำตัวน่ารัก ไม่ดื้อดึงและพยศใส่แม้แต่น้อย

ปัญหาในการขี่ม้าอยู่ที่ฉันเอง เพราะพยายามอย่างไรก็โยกตัวให้รับกับจังหวะม้าไม่ได้ แม้คุณชัยนรินทร์และใครต่อใครจะช่วยกันอธิบายและแสดงท่าทางให้ดู ฉันก็ยังผิดจังหวะอยู่ร่ำไป สุดท้ายบรรดาครูๆจึงบอกให้ปล่อยตัวโยกโยนไปตามธรรมชาติที่เรียกกันว่า ซิตติง ทร็อต (sitting trot) ซึ่งเป็นการนั่งบนหลังม้าตอนม้าวิ่งและไม่ยกตัว โดยพยายามทิ้งน้ำหนักตัวให้อยู่ศูนย์กลาง อืมม์! ง่ายกว่ากันตั้งเยอะ

ลักกี้เดินบ้าง วิ่งเหยาะบ้าง มันทำทุกอย่างตามที่ฉันต้องการ ตลอดเวลาที่อยู่บนอาน ฉันรู้สึกว่าเราเป็นสิ่งมีชีวิตที่เท่าเทียมกัน แม้จะถือสายบังเหียนสำหรับบังคับม้าอยู่ในมือ แต่ฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีอำนาจเหนือ เพราะหากลักกี้ไม่เต็มใจที่จะมีฉันอยู่บนหลัง มันคงแสดงออกด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง เช่นนี้แล้ว ฉันจึงเชื่อว่าสิ่งที่ม้าสีทรายตัวนี้มอบให้คือความร่วมมือ ไม่ใช่การยอมจำนน
ผ่านไปเกือบชั่วโมงกับการฝึก แล้วก็ถึงเวลาที่จะได้ออก เทรล (trail riding) เสียที

<previous / next >

 


jobtopgun.com/traveling > Content > Page 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12