'กุบ-กับ-กุบ-กับ...' เสียงเกือกม้ากระทบพื้นซีเมนต์ดังรับกันเป็นจังหวะ
ไม่ใช่แค่ม้า 5 ตัวที่เริงร่ากับการจะได้ออกไปโลดแล่นในทุ่งกว้างท่ามกลางแดดอ่อนยามบ่ายแก่
คนบนหลังม้าก็เริงรื่นไม่แพ้กัน โดยเฉพาะฉัน...คึกคักเสียยิ่งกว่าม้าหนุ่มที่ส่งเสียงฮี้ๆอยู่ข้างหน้า
เพราะฝันมานานแล้วว่าจะได้ออกเทรลกับเขาบ้าง
คุณชัยนรินทร์ขี่ดับเบิลนายน์ ม้าหนุ่มสีเขม่านำหน้าอย่างสง่างาม
ม้านำมักเป็นม้าตัวผู้ เพราะมันมีสัญชาตญาณแห่งการบุกเบิกผจญภัยมากกว่าตัวเมีย
อีกเหตุผลหนึ่งคือหากให้ม้าตัวผู้ตามหลังตัวเมีย กลิ่นสาบสาวจะทำให้มันคึกจนไม่เป็นอันเดิน
(เพราะจดจ้องจะทำอย่างอื่น!)
เราเรียงแถวตามคุณชัยนรินทร์ไปโดยทิ้งระยะห่างระหว่างม้าไว้เพื่อกันมันเตะกัน
แต่ม้าบางตัวก็ทำตัวเป็นเด็กขาดความอบอุ่น มันมักเดินเข้ามาเบียดเจ้าลักกี้อยู่เรื่อย
จึงเป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องกระทุ้งสีข้างลักกี้ให้เร่งความเร็วขึ้นไปอีกนิดเพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างกัน
เราเดินม้าแหวกเข้าไปกลางดงดอกหญ้าที่กำลังเริงระบำล้อลมแรง
เมื่อมองจากบนหลังม้า ฉันรู้สึกเหมือนเรากำลังเดินทางผ่านทะเลดอกหญ้าอันนวลนุ่ม
พ้นทะเลดอกหญ้าก็พ้นกำแพงของเดอะฮอร์สชูฯ ขอบเขตรั้วไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว
|