บ่ายจัดของวันอาทิตย์เป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวศรีเฟื่องฟุ้งจะนำม้าคู่ใจออกจากคอก แล้วโลดแล่นไปตามเส้นทางธรรมชาติ ซึ่งมีทั้งเทรลขึ้นเขาที่เมื่อถึงยอดเนินแล้วจะมองไปได้ไกลถึงหาดจอมเทียน เทรลรอบอ่างเก็บน้ำมาบประชัน เทรลเข้าสวนยางพาราที่ยาวต่อเนื่องไปถึงวัดญาณสังวราราม แต่วันนี้ พวกเขาจะควบม้าขึ้นเขา ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ไม่ใช่แค่ปีสองปีที่ครอบครัวศรีเฟื่องฟุ้งรู้จักม้าและอาณาบริเวณแถบนี้ พวกเขาคลุกคลีและคุ้นเคยกับทั้งม้าทั้งพื้นที่มาเกือบตลอดชีวิตของตัวเอง คนอื่นๆที่ร่วมก๊วนในบ่ายนี้ก็ล้วนแต่มีประสบการณ์ขี่ม้ามาอย่างโชกโชน เทรลที่เริ่มต้นเหมือนเส้นทางมือใหม่เมื่อวานนี้จึงเปลี่ยนไปเมื่อถึงทุ่งโล่งเตียน แทนที่จะตะลุยลงไป คุณชัยนรินทร์กลับควบม้านำไปตามเส้นทางลูกรังอีกด้าน ปิดท้ายขบวนด้วยคุณชัยคีรี พี่ชายฝาแฝดของคุณชัยนรินทร์ ซึ่งขี่รีเฟล็กชัน ม้าสีน้ำตาลขนมันขลับ

เส้นทางวันนี้สมบุกสมบันกว่าเมื่อวาน ฉันได้แต่มองตาละห้อยอยู่ท้ายรถจี๊ปที่แล่นนำ พอพ้นแนวต้นไม้ ขบวนม้าก็เลี้ยวโค้งเข้าสู่ทางที่ล้อมด้วยไร่มันสำปะหลังเขียวขจี ลงเนินนิด ขึ้นเนินหน่อย ก่อนฝ่าไปในทุ่งกว้างสุดตา ดงดอกหญ้าสีเงินยวงสะบัดพลิ้วตามแรงลม ฝุ่นตลบอบอวลตลอดแนวที่ม้าควบผ่าน แรกทีเดียวคุณชัยนรินทร์ว่าจะพาขึ้นเขาลูกเล็กที่เห็นลิบๆอยู่ด้านซ้าย แต่ปรากฏว่าต้นไม้ขึ้นรกปิดทางหมดแล้ว ขบวนจึงหันหัวกลับ คราวนี้คุณชัยคีรีเป็นผู้นำทาง พอตั้งขบวนได้ ฝุ่นก็ตลบอวลอีกครั้ง คุณชัยนรินทร์รอให้ฝุ่นจางแล้วจึงตามปิดท้าย ทำเอาเจ้าดับเบิลนายน์ส่งเสียงร้องลั่นทุ่ง มันคงตะโกนว่า 'เฮ้! รอด้วยสิเพื่อน' พวกเราที่อยู่ด้านหลังจึงหัวเราะกันยกใหญ่ ฉันเชื่อสนิทใจว่าม้าเป็นสัตว์แสนรู้และแสดงอารมณ์ได้ชัดเจนก็ตอนนี้

<previous / next >


jobtopgun.com/traveling > Content > Page 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12