Banner background image
หางานดี ต้องมีรีวิวบริษัทได้งานดีต้องมี Super Resumeค้นหางานเลย!
banner_model
รบกวนแชร์ให้หน่อยนะคะ
แชร์
I love You by JOBTOPGUN
หางาน

ตามสายอาชีพ

ตามประเภทธุรกิจ

pin

pin

ค้นหางานใหม่จากบริษัทชั้นนำ
you-say-hr-sayอ่านรีวิวจากบริษัทที่น่าสนใจ

เชื่อหรือไม่? เรซูเม่ที่ดี ช่วยสร้างโอกาสในการหางานได้มากกว่า!

เรซูเม่ มีความสำคัญอย่างมากในขั้นตอนการรับสมัครงาน เนื่องจากเป็นเอกสารที่ถูกใช้ในการประเมินคุณสมบัติและความเหมาะสมของผู้สมัครในการทำงานร่วมกับองค์กรหรือบริษัท ซึ่งบริษัทจะใช้เรซูเม่เป็นเครื่องมือในการทำความรู้จักและศึกษาเรื่องราว รวมถึงประสบการณ์ที่เกี่ยวกับตัวคุณ ดังนั้น เรซูเม่จึงส่งผลอย่างมากต่อการตัดสินใจเรียกสัมภาษณ์ หรือการเสนอตำแหน่งงาน เพราะยิ่งเรซูเม่ของคุณมีความโดดเด่นตรงตามความต้องการของบริษัทมากเท่าไร ก็จะยิ่งช่วยสร้างความน่าสนใจ เสริมโอกาสในการสมัครงานและการถูกเรียกสัมภาษณ์ได้มากขึ้นเท่านั้น

การจะสร้างเรซูเม่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการหางานทำได้นั้น มีปัจจัยสำคัญที่จำเป็นต้องคำนึงถึง ดังนี้

  • กำหนดเป้าหมายหลักในการสร้างเรซูเม่ ว่าต้องการหางานใหม่ เปลี่ยนสาย หรือเพื่อส่งใบสมัครทีเดียวให้แก่หลายบริษัท เพราะจุดประสงค์ที่แตกต่างล้วนส่งผลให้การโฟกัสสิ่งสำคัญในเรซูเม่มีความต่างกันออกไป
  • ในการเขียนเรซูเม่ นอกจากภาษาไทยแล้ว หลายคนก็นิยมใช้ภาษาอังกฤษ เพราะอาจแสดงให้เห็นถึงความสามารถในด้านภาษาได้ดี อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครควรเลือกใช้ภาษาที่เหมาะสมกับบริษัทที่ เปิดรับสมัครงาน เพราะจะช่วยแสดงออกถึงความใส่ใจของผู้สมัครได้เป็นอย่างดี โดยสามารถสังเกตได้จาก Job Description ที่อยู่บนหน้าประกาศงาน
  • รวบรวมและอัปเดตข้อมูลส่วนตัวทุกครั้งก่อนสร้างเรซูเม่ โดยต้องมีให้ครบทั้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล ที่บริษัทสามารถติดต่อได้จริง
  • เลือกเน้นจุดสำคัญ หรือจุดเด่น ให้ตรงกับตำแหน่งงานที่บริษัทต้องการ โดยเลือกใส่ข้อมูลให้สอดคล้องกับ Job Description ตามประกาศรับสมัครงาน

พร้อมปรับแต่งเรซูเม่ให้ยืนหนึ่ง! ใส่ข้อมูลได้ครบถ้วนตามต้องการ ด้วย Super Resume ที่ช่วยนำเสนอตัวตน จุดแข็ง และความสามารถของคุณได้โดดเด่นจับตาบริษัทชั้นนำ

แต่ละสายอาชีพชีวิตเป็นอย่างไร?

อ่านชีวิตจริงของ 26 สายอาชีพ จากคนทำงาน 40,000 คน

อ่านเลย! คลิก
super-resume-human-hero-banner
'Super Resume'
เรซูเม่ที่ช่วยให้คุณยืนหนึ่งโอกาสถูกเรียกสัมภาษณ์มากกว่า
สร้างเรซูเม่เลย ฟรี!
super-resume-human-hero-banner
เปิดโลกการทำงานให้คุณไม่พลาดทุกข่าวสาร เคล็ดลับ บทความ ที่จะเปิดโลกการทำงานใหม่ ๆ ที่เราคัดสรรมาเพื่อคุณ
[object Object]
5 Technical Skills ที่คนสายไอทีควรมีในยุค AI มีอะไรบ้าง?ถึงตอนนี้ ชัดเจนแล้วว่าการมาถึงของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันของพวกเราไปพอสมควร และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ถ้าหากไม่สามารถปรับตัวได้ทัน การโดน AI แย่งงานในอนาคตก็อาจจะไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริง โดยเฉพาะสายงานแวดวง IT ที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากเรื่องนี้ ดังนั้น บทความนี้จึงจะมาแนะนำ 5 Technical Skills สำหรับคนทำงานสายไอทีนั้นมีอะไรบ้าง เพื่อเปลี่ยนจากโดน AI แย่งงาน เป็นการใช้ AI เสริมความสามารถ ติดปีกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ติดตามได้เลย5 Technical Skills คืออะไร? สกิลไหนที่ต้องมีในยุค AIรวม 5 Technical Skills สำคัญในยุค AI ที่คนทำงานสายไอทีควรมี1. Prompt EngineeringTechnical Skills แรกที่สำคัญมากคือ Prompt Engineering ซึ่งหมายถึงทักษะในการออกแบบพรอมต์ หรือคำสั่งให้กับเครื่องมือ AI อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับความสามารถเฉพาะและข้อจำกัดของระบบ AI แต่ละตัว เพื่อให้พรอมต์สามารถสื่อสารกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ AI ทำงานได้ตรงตามความต้องการของคุณมากที่สุดการที่มีทักษะ Prompt Engineering จะช่วยให้คนทำงานสายไอทีสามารถใช้เครื่องมือ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเต็มศักยภาพของเครื่องมือ AI ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายในการทำงานแต่ละงานได้รวดเร็ว และแม่นยำยิ่งขึ้นหากอยากมีทักษะ Prompt Engineering ระดับมืออาชีพ สามารถฝึกฝนได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการทดลองป้อนคำสั่งหลาย ๆ รูปแบบเพื่อหาวิธีที่ดีที่สุด ให้เหมาะกับคุณและเครื่องมือที่ใช้มากที่สุด หรือจะลงเรียนคอร์สออนไลน์ เข้าร่วมกลุ่ม หรือฟอรัมที่แชร์วิธีการพรอมต์คำสั่ง AI ก็ได้2. Cloud Computing และ Distributed Systemsทักษะและความเข้าใจเกี่ยวกับ Cloud Computing และ Distributed Systems เป็นทักษะสำคัญในด้านไอทีที่โปรแกรมเมอร์และคนทำงานในสายไอทีควรต้องมี เพราะจะช่วยให้สามารถจัดการทรัพยากรต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลจำนวนมากที่ใช้ในการประมวลผลและการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุดการมีความเข้าใจและมีทักษะในการจัดการ Cloud Computing และ Distributed Systems จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับการกระจายข้อมูลและจัดการข้อมูลที่มีปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น ลดความผิดพลาดและล่าช้าของเว็บไซต์ ตลอดจนระบบต่าง ๆ ได้ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถนำระบบคลาวด์และการกระจายข้อมูลมาใช้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงานร่วมกัน การเข้าถึง และส่งต่อข้อมูลได้ แถมยังช่วยให้เกิดความคุ้มค่าด้านงบประมาณ เพราะไม่ต้องใช้เครื่องมือฮาร์ดแวร์ราคาแพง หรือต้องการการดูแลอย่างสม่ำเสมออีกด้วยหากต้องการฝึกฝน Technical Skills นี้ สามารถเรียนรู้ได้จากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาที่ผู้ให้บริการคลาวด์แต่ละที่นำเสนอไว้ให้เข้าถึงได้ฟรี การลงทะเบียนเรียนคอร์สที่ให้ใบรับรองอย่าง Google Cloud Certified Professional Cloud Architect หรือ AWS Certified Solutions Architect แต่หนึ่งในวิธีที่จะช่วยพัฒนาทักษะนี้ได้ดีที่สุดก็คือ การทดลองใช้ระบบคลาวด์ด้วยตนเองผ่านแพลตฟอร์มคลาวด์ฟรีนั่นเอง3. Cybersecurityอีกหนึ่งทักษะสำคัญที่จะไม่มีไม่ได้ในยุคแห่งเทคโนโลยีก็คือ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ Cybersecurity นั่นเอง ซึ่งความปลอดภัยทางไซเบอร์นั้นหมายถึงการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักปฏิบัติ และการใช้งานเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องระบบ เครือข่าย และข้อมูลจากการเข้าถึง การใช้ การเปิดเผย การหยุดชะงัก การแก้ไข หรือการทำลายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ไม่หวังดีนั่นเองการมีทักษะด้าน Cybersecurity จะช่วยให้คุณสามารถปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน รวมถึงเครือข่าย และระบบต่าง ๆ ของคุณจากการโจมตีทางไซเบอร์ได้ ช่วยให้ปลอดภัยจากการถูกเข้าถึง และละเมิดข้อมูลสำคัญ อีกทั้งยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับระบบของคุณ ทำให้ลูกค้ามั่นใจและไว้วางใจในการใช้บริการของคุณด้วยหากต้องการมี Technical Skills ด้าน Cybersecurity อาจฝึกฝนได้ด้วยวิธีต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามอัปเดตข่าวสารเกี่ยวกับภัยคุกคามและวิธีเพิ่มความปลอดภัยด้านไซเบอร์อยู่เสมอ การเข้าร่วมหลักสูตรออนไลน์ที่สอนเกี่ยวกับ Cybersecurity ไปจนถึงการเรียนรู้เทคนิคการแฮ็กอย่างมีจริยธรรมผ่านแล็บเสมือนหรือแพลตฟอร์มเฉพาะเพื่อทำความเข้าใจวิธีการทำงานของผู้โจมตี เพื่อหาแนวทางรับมือและแก้ไข4. Machine Learning และ AI Algorithmsความรู้ และ Technical Skills เกี่ยวกับ Machine Learning และ AI Algorithms คือการเข้าใจถึงกระบวนการเรียนรู้ของเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้จากข้อมูล เรียนรู้การระบุรูปแบบ และการคาดการณ์หรือตัดสินใจต่าง ๆ ได้เป็นอัตโนมัติ และเข้าใจการทำงานของอัลกอริทึมของ AI ด้วยประโยชน์ของการมีทักษะนี้คือการช่วยให้คุณสามารถนำ AI มาใช้งานเพื่อการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลเป็นพื้นฐาน ซึ่งจะส่งผลให้มีผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้น มีกระบวนการทำงานที่เป็นอัตโนมัติมากขึ้น ลดความซ้ำซ้อนของงานได้ด้วยการเรียนรู้และหาข้อมูลเกี่ยวกับ Machine Learning และ AI Algorithms สามารถทำได้โดยติดตามการเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึมให้เป็นปัจจุบันเสมอ และหมั่นหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคการฝึกฝน AI ใหม่ รวมถึงการฝึกฝนและทดลองเทคนิคต่าง ๆ อยู่เสมอด้วย5. AI EthicsAI Ethics หรือจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์เป็น Technical Skills สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยในยุค AI เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เราพัฒนาและใช้ AI ได้อย่างมีความรับผิดชอบ เป็นธรรม เป็นส่วนตัว และปลอดภัย พร้อมทั้งลดการสร้างผลกระทบในทางที่ไม่ดีแก่สังคมให้ได้มากที่สุดการมีทักษะนี้จะช่วยให้สามารถพัฒนา AI ได้อย่างมีความรับผิดชอบ เป็นกลาง และโปร่งใส ลดความเสี่ยงด้านการเกิดอคติและการเลือกปฏิบัติของอัลกอริทึม ซึ่งจะช่วยสร้างความไว้วางใจและการยอมรับให้กับระบบที่สร้างขึ้นได้ด้วยหากต้องการเสริมจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ สามารถทำได้โดยการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ที่ควรมี รวมถึงเทคนิคต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย หรือเข้าร่วมหลักสูตรและเวิร์กช็อปที่องค์กรต่าง ๆ จัดขึ้นก็ได้เมื่อได้ทราบแล้วว่า Technical Skills ที่คนสายไอทีควรมีในยุค AI มีอะไรบ้าง ดังนั้น หากฝึกฝนทักษะเหล่านี้จนชำนาญ โอกาสที่จะได้ตำแหน่งงานดี ๆ ในอุตสาหกรรมนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก โดยใครที่กำลังมองหางานโปรแกรมเมอร์ที่ใช่ แนะนำให้สร้าง Resume ที่มีข้อมูลครบถ้วน นำเสนอจุดแข็งและทักษะของคุณเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ HR ด้วย Super Resume จาก JOBTOPGUN แพลตฟอร์มหางานที่มีงานอัปเดตให้คุณทุกวัน ได้รับการยอมรับจากบริษัทชั้นนำกว่า 30,000 แห่ง พร้อมมีรีวิวบริษัทที่เปิดรับทำงาน ช่วยให้คุณรู้จักบริษัทดียิ่งขึ้นก่อนสมัครงานโปรแกรมเมอร์ และสายงานอื่น ๆ อีกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ 02-853-6999 หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน JOBTOPGUN ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android
[object Object]
รู้จัก 5 กลยุทธ์สร้าง Customer Experience ให้ประสบความสำเร็จในยุคปัจจุบันที่ผู้บริโภคมีทางเลือกมากมาย การสร้าง Customer Experience (CX) ที่ดีจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจทุกขนาด โดยเฉพาะสายงานด้านการบริการ เพื่อช่วยสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จทางธุรกิจ บทความนี้จะมาแนะนำ 5 กลยุทธ์สำคัญในการสร้าง CX ที่ช่วยดึงดูดใจลูกค้าให้ประสบความสำเร็จ5 กลยุทธ์การสร้าง Customer Experience ให้ธุรกิจเติบโตยั่งยืนทำไมควรให้ความสำคัญกับ Customer ExperienceCustomer Experience (CX) คือ กลยุทธ์สำคัญในการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ที่มุ่งสร้างประสบการณ์อันดีให้แก่ลูกค้า ส่งผลต่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ นำไปสู่การซื้อซ้ำ การบอกต่อ และสร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจในระยะยาว ซึ่งกลยุทธ์ CX นี้ ถือเป็นอาวุธสำคัญในการเอาชนะคู่แข่งในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพประโยชน์ของการมี CX ที่ดีเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้นเพิ่มโอกาสลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ และรักษาฐานลูกค้าให้แนบแน่นลูกค้ารู้สึกดี มีความผูกพัน ภูมิใจ และสนับสนุนแบรนด์ช่วยให้แบรนด์มีชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีในตลาด5 กลยุทธ์สำคัญในการสร้าง Customer Experience (CX)กลยุทธ์สำคัญในการสร้าง CX สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือขนาดใหญ่ เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า และดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาสู่ธุรกิจได้เสมอกลยุทธ์ที่ 1: เข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งกลยุทธ์แรกที่สำคัญที่สุด คือ การทำความเข้าใจลูกค้าว่า ลูกค้าเป็นใคร มีความต้องการและคาดหวังแบบไหน ธุรกิจควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าอย่างละเอียด ทั้งข้อมูลประชากรศาสตร์ พฤติกรรมการบริโภค ไลฟ์สไตล์ เป็นต้น เพื่อนำมากำหนดวิธีสร้างกลยุทธ์ CX ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ผ่านวิธีการที่หลากหลาย เช่น การทำวิจัยตลาด การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า หรือการพูดคุยกับลูกค้าโดยตรงกลยุทธ์ที่ 2: มอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายเมื่อเราเข้าใจลูกค้าที่ดีแล้ว กลยุทธ์ CX ต่อมา คือการมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายให้แก่ลูกค้า ซึ่งพวกเขาจะรู้สึกประทับใจและรู้สึกได้ว่าธุรกิจใส่ใจพวกเขาจริง ๆ เช่น การให้บริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การแก้ไขปัญหาของลูกค้าอย่างรวดเร็ว พร้อมเสนอทางเลือกที่ดียิ่งกว่า หรือการมอบสิทธิพิเศษหรือส่วนลดให้แก่ลูกค้ากลยุทธ์ที่ 3: เชื่อมสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างเป็นธรรมชาติวิธีสร้าง CX ให้ประสบความสำเร็จ นอกจากการตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าแล้ว ต้องหาแนวทางเชื่อมสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าตั้งแต่ก่อนลูกค้าใช้สินค้าหรือบริการ ไปจนถึงหลังการใช้งานเสร็จสิ้น เช่น การใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย การใช้โทนเสียงที่อบอุ่นเป็นกันเอง การเล่าเรื่องหรือสร้างประสบการณ์ที่สนุกสนานให้แก่ลูกค้า เป็นต้นกลยุทธ์ที่ 4: มอบประสบการณ์ที่สม่ำเสมอสิ่งสำคัญของการสร้าง CX ที่จะขาดไปไม่ได้ คือ การมอบประสบการณ์ของลูกค้าให้อย่างสม่ำเสมอในทุก ๆ จุดสัมผัส (Touchpoint) ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสาร (เว็บไซต์, หน้าร้าน, โซเชียลมีเดีย, ฝ่ายบริการลูกค้า) รูปแบบการบริการ การแก้ไขปัญหา หรือแม้แต่บรรจุภัณฑ์ จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจและจดจำแบรนด์ได้กลยุทธ์ที่ 5: มุ่งมั่นปรับปรุงอย่างต่อเนื่องการรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้า จะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการของลูกค้า และนำไปปรับปรุงประสบการณ์ CX ให้ดียิ่งขึ้น ธุรกิจควรมีช่องทางในการรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้า เช่น การทำแบบสำรวจ การจัดกิจกรรมรับฟังความคิดเห็นกับลูกค้าโดยตรง หรือการทำ Social Listening เพราะในโซเชียลมีเดียเป็นที่ที่ลูกค้ามักจะแสดงความคิดเห็นได้อย่างตรงไปตรงมามากที่สุดทั้ง 5 กลยุทธ์นี้ เป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นในการสร้าง CX ที่ดี ธุรกิจควรปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทและความต้องการของธุรกิจ เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และมีโอกาสประสบความสำเร็จทางธุรกิจในระยะยาวสำหรับคนที่สนใจงานด้านบริการ การสร้าง Customer Experience (CX) ตำแหน่งฝ่ายขาย เป็นอาชีพที่ไม่ควรพลาด เพื่อสร้างรายได้ที่ดี สามารถเข้ามาหางานได้ที่ JOBTOPGUN แพลตฟอร์มหางาน ตำแหน่งพนักงานขาย เซลล์ขายของ ที่ครอบคลุมทุกบริษัทชั้นนำในไทย พร้อมอัปเดตตำแหน่งใหม่ สร้างโอกาสได้ทุกวัน นอกจากนี้ยังมี Super Resume ที่ช่วยให้คุณสร้าง Resume อย่างมืออาชีพอีกด้วย พร้อมนำเสนอคุณให้โดดเด่นกว่าใคร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ของเราได้ที่เบอร์ 02-853-6999 หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน JOBTOPGUN ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android
[object Object]
แจกสูตรสำเร็จ วิธีเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษให้ HR สนใจคุณ!ภาษาอังกฤษ ภาษาสากลที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และถือเป็นใบเบิกทางสำคัญที่จะพาคุณก้าวหน้าไปได้ไกลกว่าในโลกของการทำงาน ดังนั้น ใครที่กำลังเตรียมจะเขียนเรซูเม่เพื่อสมัครงาน หรือเพื่อเปลี่ยนงานใหม่ อย่าพลาดบทความนี้ เพราะเรามีวิธีเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษแบบเด็ด ๆ มาแนะนำ รับรองว่าทำตามแล้ว จะทำให้เรซูเม่ของคุณดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น เพิ่มโอกาส Go Inter ในองค์กรต่างชาติได้แน่นอน!เปิดวิธีเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษระดับโปร Go Inter ได้ไม่ยาก!ข้อดีของการรู้วิธีเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษแม้ในประเทศไทย เราจะมีภาษาไทยเป็นภาษาหลัก ใช้ในการติดต่อสื่อสารกันทั้งในคนทั่วไป ติดต่อราชการ หรือการทำงานร่วมกับองค์กรและบริษัทหลายแห่ง แต่ก็ต้องยอมรับว่าหากอยากเติบโตในระดับนานาชาติ ภาษาอังกฤษก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน และนี่คือประโยชน์ที่จะได้รับ หากคุณรู้วิธีเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษ และสามารถนำเสนอตัวเองออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มโอกาสได้งานในบริษัทต่างชาติขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทต่างชาติ มีพนักงานหลายชาติ หลายภาษา ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นตัวกลางการสื่อสาร ซึ่งหากคุณเขียนเรซูเม่เป็นภาษาอังกฤษ ก็มีโอกาสได้รับการพิจารณาจากนายจ้างที่เป็นชาวต่างชาติได้มากขึ้น มีอัตราการก้าวหน้าสูง หรืออาจได้ย้ายไปประจำที่สำนักงานใหญ่และสาขาในประเทศอื่น ๆ เลยทีเดียวสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพการเขียนเรซูเม่เป็นภาษาอังกฤษ จะทำให้คุณดูเป็นมืออาชีพ เป็นคนที่พร้อมจะสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานและเจ้านายซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ต่างภาษาได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มความประทับใจให้ผู้สัมภาษณ์ นำไปสู่โอกาสการได้งานที่สูงขึ้นมีโอกาสเรียกเงินเดือนได้สูงขึ้นแน่นอนว่า HR หัวหน้างาน และผู้บริหาร ต้องพิจารณาฐานเงินเดือนจากความรู้ ความสามารถ และทักษะที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น หากคุณมีทักษะภาษาอังกฤษที่แข็งแรง ฟัง พูด อ่าน และเขียนได้อย่างคล่องแคล่ว ก็เป็นช่องทางหนึ่งที่จะใช้เพิ่มเงินเดือนให้ตัวเองได้ด้วยเช่นกันวิธีเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษอย่างเป็นมืออาชีพเมื่อรู้แล้วว่าการเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษมีความสำคัญอย่างไรต่อการสมัครงาน แต่สำหรับหลายคน ภาษาอังกฤษก็เปรียบเสมือนยาขมที่ได้ยินแล้วต้องเบ้หน้าใส่ หากจะให้เขียนเรซูเม่เป็นภาษาอังกฤษคงจะเป็นเรื่องยากเกินความสามารถ บอกเลยว่าอย่าเพิ่งกังวลไป เพราะภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด หากมีความพยายาม หมั่นฝึกฝน และกล้าพูด กล้าเขียน ก็สามารถเรียนรู้จนพูดคล่องได้เช่นกัน และสำหรับใครที่ยังไม่รู้วิธีเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษ ไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นเขียนอย่างไร ต้องใส่ข้อมูลอะไรบ้าง เรามีวิธีเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษฉบับมืออาชีพที่ HR เห็นแล้วต้องสนใจจนเรียกสัมภาษณ์มาฝากกัน จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลยจัดวางข้อมูลอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ใส่ช่องทางการติดต่อให้ครบถ้วนการจัดลำดับข้อมูลถือเป็นหัวใจสำคัญในการเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษ คุณต้องรู้ว่าควรใส่ข้อมูลอะไรก่อน อะไรหลัง โดยส่วนใหญ่จะเรียงจากประวัติส่วนตัวอย่างชื่อ นามสกุล และอายุ แล้วตามด้วยช่องทางการติดต่อ ได้แก่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ จากนั้นจึงเป็นประวัติการศึกษาโดยไล่จากระดับชั้นที่สูงที่สุด ตามด้วยจุดมุ่งหมายในการทำงาน ประสบการณ์ทำงาน ทักษะ และรางวัลที่เคยได้รับใส่รูปถ่ายของตัวเองลงในเรซูเม่ทุกครั้งนอกจากข้อมูลสำคัญที่ควรใส่ไว้ให้ครบถ้วนแล้ว อย่าลืมใส่รูปถ่ายของตัวเองลงในเรซูเม่ทุกครั้ง โดยควรเลือกรูปที่เป็นทางการ สุภาพ น่าเชื่อถือ ดูมีความเป็นมืออาชีพ และควรเป็นรูปที่ถ่ายมาแล้วไม่เกิน 6 เดือน เพื่อให้ HR และผู้สัมภาษณ์รู้จักหน้าตาและได้เห็นบุคลิกภาพในเบื้องต้นเขียน Executive Summary หลังข้อมูลส่วนตัวอีกหนึ่งวิธีเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษให้โดดเด่น ถูกใจ HR คือการเขียน Executive Summary เอาไว้หลังข้อมูลส่วนตัว ซึ่ง Executive Summary เป็นการสรุปจุดเด่นและประสบการณ์ทำงานของคุณโดยย่อ แม้ว่าจะเป็นย่อหน้าสั้น ๆ แต่บอกเลยว่าทรงพลังและดึงดูดใจผู้อ่านได้ดีมากเลือกใช้คำศัพท์ระบุระดับความรู้หรือทักษะให้เห็นภาพทักษะต่าง ๆ คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเขียนเรซูเม่ หากอยากบอกระดับความสามารถของทักษะนั้น ๆ ควรหลีกเลี่ยงการให้คะแนนเป็นตัวเลข แต่ควรใช้คำศัพท์ที่เห็นภาพกว่าแทน ได้แก่Novice ระดับมือใหม่Beginner ระดับผู้เริ่มต้นCompetent ระดับที่สามารถปฏิบัติงานได้ด้วยตนเองProficient ระดับที่มีความชำนาญ ปฏิบัติงาน และแก้ไขปัญหาเองได้Expert ระดับผู้เชี่ยวชาญ ปฏิบัติงานเองได้และสามารถให้คำปรึกษากับผู้อื่นได้ระบุบุคคลที่สามารถอ้างอิงความรู้ความสามารถของเราได้การใส่บุคคลอ้างอิง หรือ Referral Person พร้อมช่องทางการติดต่อ คืออีกหนึ่งวิธีเขียนเรซูเม่ภาษาอังกฤษที่ไม่ควรมองข้าม เพราะพวกเขาจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่คุณ ทำให้องค์กรมั่นใจว่าคุณมีความรู้ความสามารถจริง และเป็นคนที่น่าร่วมงานด้วยนั่นเองตรวจสอบความถูกต้องให้ดีก่อนส่งสุดท้าย อย่าลืมตรวจทานเรซูเม่ให้ดีก่อนกดส่ง โดยควรตรวจสอบทั้งความถูกต้องของคำศัพท์ ตัวสะกด การเว้นวรรค ไวยากรณ์ และระดับภาษาให้ดี ป้องกันเกิดข้อผิดพลาด ทำให้ผู้สัมภาษณ์เข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะนั่นอาจทำให้คุณเสียโอกาสได้งานที่ใช่ไปอย่างน่าเสียดายทำ Resume สมัครงานฉบับภาษาอังกฤษให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มโอกาสได้งานในบริษัทที่ใช่ด้วย Super Resume จาก JOBTOPGUN นำเสนอจุดเด่นของคุณได้อย่างครบถ้วน ได้รับการยอมรับจากบริษัทชั้นนำกว่า 30,000 แห่ง มียอดผู้ลงทะเบียนใช้งานกว่า 4.8 ล้านคน ตลอด 23 ปีที่ผ่านมา สามารถใช้งานได้ฟรีที่เว็บไซต์ของเรา หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน JOBTOPGUN ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ของเราได้ที่เบอร์ 02-853-6999
[object Object]
วิธีเลือกงาน Part Time ให้ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์และรายได้ในปัจจุบัน การทำงาน Part Time กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้คนหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา พนักงานประจำ หรือแม้แต่ผู้ที่ว่างงานที่ต้องการหารายได้เสริม หรือเพิ่มทักษะประสบการณ์ในการทำงาน เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ตลาดแรงงานในอนาคตอย่างไรก็ตาม การเลือกงาน Part Time ให้ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์และรายได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน บทความนี้จึงจะนำเสนอเทคนิคการเลือกงาน Part Time ให้ตรงกับความต้องการ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจเลือกงานที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุดเทคนิคการเลือกงาน Part Time ให้ตรงกับความต้องการประโยชน์ของการทำงาน Part Timeงาน Part-time เป็นงานที่ทำนอกเหนือจากงานประจำ อาจเป็นงานที่ทำเป็นรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและความต้องการของนายจ้าง ถึงแม้ว่างาน Part Time จะไม่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของเงินเดือนเท่างานประจำ แต่ก็มีประโยชน์มากมายที่คุณอาจยังไม่รู้สร้างรายได้เสริม ให้มีเงินเก็บเพิ่ม มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หรือมีเงินทุนสำหรับการศึกษาต่อหรือการลงทุนในอนาคตเพิ่มทักษะและประสบการณ์ในการทำงาน เช่น ทักษะด้านการสื่อสาร ทักษะด้านการทำงานเป็นทีม ทักษะด้านการบริหารเวลา ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคตเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กร ช่วยให้เข้าใจองค์กรและปรับตัวเข้ากับการทำงานในองค์กรได้ง่ายขึ้นสร้างเครือข่ายเพื่อนร่วมงาน ได้รู้จักเพื่อนร่วมงานใหม่ ๆ การมีเพื่อนร่วมงานที่ดีจะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเทคนิคการเลือกงาน Part Time ให้ตรงกับความต้องการงาน Part Time เป็นแหล่งรายได้เสริมสำหรับผู้ที่ทำงานประจำหรือนักเรียนนักศึกษา และเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มทักษะและประสบการณ์ในการทำงาน โดยการเลือกงาน Part Time ให้ตอบโจทย์ ควรพิจารณาดังนี้1. พิจารณาเวลาว่างสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก่อนเลือกงาน Part Time คือเวลาว่างของตนเองมีอยู่มากน้อยแค่ไหน ควรเลือกงานให้สอดคล้องกับเวลาว่างของตนเอง เนื่องจากบางงาน Part Time อาจมีช่วงเวลาทับซ้อนกับงานประจำหรือการเรียน ที่ส่งผลเสียต่อหน้าที่หลักได้สำหรับคนที่มีเวลาว่างค่อนข้างมาก สามารถเลือกงาน Part Time ได้ทุกประเภท แต่หากมีเวลาว่างจำกัด ก็ควรเลือกงาน Part Time ที่อยู่ในช่วงเวลาไม่กระทบกับงานประจำหรือการเรียน เช่น งานในร้านอาหารหรือร้านกาแฟ ที่สามารถทำได้ในช่วงเย็นหรือวันหยุด2. สำรวจทักษะความสามารถมาสำรวจทักษะความสามารถของตนเองว่ามีความถนัดด้านใดหรือมีทักษะพิเศษอะไรบ้าง เพราะการทำงาน Part Time ที่ชอบหรือถนัด จะทำให้การทำงานสนุกและมีความสุขมากขึ้น ส่งผลให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีโอกาสพัฒนาและต่อยอดเป็นงานประจำที่ดีและเหมาะสมได้ในอนาคต3. พิจารณารายได้รายได้ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเลือกงาน Part Time ไม่ควรเลือกงานที่รายได้ต่ำจนเกินไป เพราะอาจไม่คุ้มค่ากับเวลาและแรงกายที่เสียไป หรือบางงานให้รายได้ที่สูง แต่อาจต้องทำงานหนักหรือทำงานในเวลาที่ไม่สะดวก ต้องกระทบกับการเรียนหรืองานประจำที่ทำอยู่ดังนั้น เราควรเลือกงาน Part Time ที่มีรายได้เพียงพอ กับความต้องการและเป้าหมายของเรา โดยคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น เวลาว่าง และความสอดคล้องกับการเรียนหรืองานประจำของเราด้วย4. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทการเลือกงาน Part Time ที่ดี ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหรือองค์กรให้รอบคอบก่อนสมัคร เช่น ประวัติของบริษัท วัฒนธรรมองค์กร สวัสดิการพนักงาน จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมของการทำงานและวัฒนธรรมองค์กรได้ชัดเจนขึ้น5. เตรียมตัวสัมภาษณ์งานเมื่อคุณได้งาน Part Time ที่คุณสนใจแล้ว ควรเตรียมตัวสัมภาษณ์งานให้พร้อม โดยศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหรือองค์กร เตรียมคำถามที่อาจถูกถาม ฝึกซ้อมตอบคำถามให้คล่องแคล่ว และการแต่งกายที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานมากขึ้นวิธีการเลือกงาน Part Time ข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้คุณได้งานที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์และรายได้ แต่หากต้องการเพิ่มโอกาสให้ได้งาน Part Time ที่ดีและใช่ยิ่งขึ้น มาที่ JOBTOPGUN แพลตฟอร์มหางานที่มีงานอัปเดตให้คุณทุกวัน ได้รับการยอมรับจากบริษัทชั้นนำกว่า 30,000 แห่งในไทย ที่ดูแลให้คุณหางาน Part Time ได้ง่าย และช่วยคุณสร้าง Resume อย่างมืออาชีพด้วย Super Resume เพื่อนำเสนอจุดแข็งและทักษะของคุณจนสร้างความประทับใจให้แก่ HR เพื่อให้คุณโดดเด่นกว่าใคร และยังมีรีวิวบริษัทที่เปิดรับทำงาน ที่ช่วยให้คุณรู้จักบริษัทตามความจริง ดูแลให้คุณได้งานที่ดี สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ 02-853-6999 หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน JOBTOPGUN ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android
บริการของเราเพื่อคุณเว็บไซต์หางานที่ช่วยให้คุณและบริษัทรู้จักกันมากขึ้นด้วยช่องทางในการอ่านและเขียนรีวิวอย่างมีคุณภาพ และมีตัวช่วยในการสร้างเรซูเม่ที่นำเสนอตัวตนให้คุณยืนหนึ่ง มีโอกาสได้งานมากกว่าใคร
JOBTOPGUNJOBTOPGUN
เว็บไซต์หางานที่ช่วยให้คุณได้งานจากบริษัทชั้นนำกว่า 2,000 บริษัท
SUPER RESUMESUPER RESUME
ช่วยนำเสนอตัวตนของคุณได้ดีที่สุด มีผู้ใช้กว่า 3 ล้านคน
YOUSAY/HRSAYYOUSAY/HRSAY
นำเสนอเชิดชูบริษัทที่อยู่ในมาตรฐานของบริษัททั่วไปที่จะพึงมี และนำเสนอบริษัทที่จะเป็น Dream Company
ติดตามงานที่ใช่ได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชั่น JOBTOPGUN
Download on the App StoreGet it on Google Play
Smartphone Application
Find job, Get job
ให้เราช่วยให้คุณ “หางาน ได้งาน”

หากไม่อยากพลาดโอกาสที่จะทำให้คุณได้มีชีวิตดีจากงานที่ดี เริ่มเข้าสู่ระบบเพื่อหางานไปพร้อม ๆ กัน

หางานบริษัทในฝันได้ง่าย ๆ กับเว็บไซต์สมัครงานที่ใช้งานสะดวก JOBTOPGUN

ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหางาน สมัครงานบริษัทตำแหน่งไหน จะเป็นเด็กจบใหม่ไฟแรง หรือต้องการมองหางานประจำที่ช่วยขยับขยายเปลี่ยนสาย Job ให้ก้าวหน้า ก็สามารถหางานด่วนที่ใช่ ในบริษัทที่ถูกใจ ได้ที่ JOBTOPGUN เว็บสมัครงานออนไลน์ ที่รวบรวมงานพร้อมข้อมูลเงินเดือนจากบริษัทชั้นนำไว้มากมายกับแอปหางานที่อัปเดตใหม่ทุกวัน ดูแลให้คุณได้งานจริง ด้วย Super Resume ที่ให้คุณสร้าง Resume อย่างมืออาชีพ พร้อมนำเสนอคุณให้โดดเด่นกว่าใคร และยังมีรีวิวบริษัท ที่ช่วยให้คุณรู้จักบริษัทตามความจริง ดูแลให้คุณหางานง่าย ได้งานดี ที่ JOBTOPGUN