16.30
นาฬิกาของวันกลางสัปดาห์ ณ บ้านท่าดีหมี อำเภอเชียงคาน
ผมยืนอยู่บริเวณที่ลำน้ำเหืองไหลมาพบลำน้ำโขงหลังจากสายน้ำโขงเดินทางจาก
ที่ราบสูงชิงไห่ชายแดนประเทศจีน มาพบแผ่นดินไทยครั้งแรกที่อำเภอเชียงแสน
ทำหน้าที่เป็นเส้นกั้นพรมแดนระหว่างไทยกับลาว มาจนกระทั่งถึงอำเภอเวียง
แก่น จังหวัดเชียงราย จากนั้นก็เดินทางเข้าไปในแผ่นดินลาว และวกเข้ามาพบ
แผ่นดินไทยอีกครั้งที่ ปากเหือง
เขตอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ทำหน้าที่
เป็นเส้นกั้นพรมแกนต่อไปจนกระทั่งถึงอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
และ
จากแผ่นดินไทยไปที่บ้านเวินบึก จากไปพร้อมๆ กับเพื่อนร่วมทางอีกหลายลำน้ำ
ที่ไหลมาพบในระหว่างทำหน้าที่เป็นเส้นกั้นพรมแดน
แสงแดดยามบ่ายจัดแรงกล้า
สะท้อนผืนน้ำที่เป็นวังกว้างระยิบระยับ
สายฝนต้นฤดู ซึ่งตกหนักในช่วงสัปดาห์ที่แล้วทำให้ลำน้ำเหืองดูขุ่น
แต่กระนั้น
บริเวณที่สายน้ำเหืองมาพบกับสายน้ำโขง ซึ่งขุ่นแดงมากกว่าก็ดูเป็นสายน้ำสองสี
ดูคล้ายจะแตกต่าง แต่ความแตกต่างก็เป็นอยู่ในบริเวณแคบๆ ห่างจากฝั่งไปไม่
เท่าไหร่สายน้ำทั้งสองก็กลายเป็นสีเดียว นั่นคือสีขุ่นแดง เป็นสีขุ่นแดงไหลเชี่ยว
มุ่งไปยังทิศทางเดียวกัน ฝั่งตรงข้ามลำน้ำเหือง ลำน้ำ แคบๆ สายนี้
คือแขวง
ไชยบุรี เป็นแผ่นดินที่เคยเรียกขานกันในชื่อ
ดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง
หลังจากกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส
ไทยต้องยอมยกดินแดนนี้ให้
ฝรั่งเศสในปี ร.ศ.๑๑๒ซึ่งตรงกับสมัยพระพุทธเจ้าหลวง รัชการที่
๕ หรือ ปี
พ.ศ. ๒๔๓๖ เรือหลายลำท้องแบนติดผืนน้ำลอยอยู่เหนือลำน้ำ
ผู้ชายบนเรือ
สาละวนอยู่กับการวาง มอง
หรือตาข่ายดักปลา < ย้อนกลับ/หน้าถัดไป
>
|