สารบัญ / หน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14
 

16.30 นาฬิกาของวันกลางสัปดาห์ ณ บ้านท่าดีหมี อำเภอเชียงคาน

ผมยืนอยู่บริเวณที่ลำน้ำเหืองไหลมาพบลำน้ำโขงหลังจากสายน้ำโขงเดินทางจาก
ที่ราบสูงชิงไห่ชายแดนประเทศจีน มาพบแผ่นดินไทยครั้งแรกที่อำเภอเชียงแสน ทำหน้าที่เป็นเส้นกั้นพรมแดนระหว่างไทยกับลาว มาจนกระทั่งถึงอำเภอเวียง
แก่น จังหวัดเชียงราย จากนั้นก็เดินทางเข้าไปในแผ่นดินลาว และวกเข้ามาพบ
แผ่นดินไทยอีกครั้งที่ ปากเหือง เขตอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ทำหน้าที่
เป็นเส้นกั้นพรมแกนต่อไปจนกระทั่งถึงอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี และ
จากแผ่นดินไทยไปที่บ้านเวินบึก จากไปพร้อมๆ กับเพื่อนร่วมทางอีกหลายลำน้ำ
ที่ไหลมาพบในระหว่างทำหน้าที่เป็นเส้นกั้นพรมแดน

แสงแดดยามบ่ายจัดแรงกล้า สะท้อนผืนน้ำที่เป็นวังกว้างระยิบระยับ

สายฝนต้นฤดู ซึ่งตกหนักในช่วงสัปดาห์ที่แล้วทำให้ลำน้ำเหืองดูขุ่น แต่กระนั้น
บริเวณที่สายน้ำเหืองมาพบกับสายน้ำโขง ซึ่งขุ่นแดงมากกว่าก็ดูเป็นสายน้ำสองสี
ดูคล้ายจะแตกต่าง แต่ความแตกต่างก็เป็นอยู่ในบริเวณแคบๆ ห่างจากฝั่งไปไม่
เท่าไหร่สายน้ำทั้งสองก็กลายเป็นสีเดียว นั่นคือสีขุ่นแดง
เป็นสีขุ่นแดงไหลเชี่ยว
มุ่งไปยังทิศทางเดียวกัน ฝั่งตรงข้ามลำน้ำเหือง ลำน้ำ แคบๆ สายนี้ คือแขวง
ไชยบุรี เป็นแผ่นดินที่เคยเรียกขานกันในชื่อ ดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง

หลังจากกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ไทยต้องยอมยกดินแดนนี้ให้
ฝรั่งเศสในปี ร.ศ.๑๑๒ซึ่งตรงกับสมัยพระพุทธเจ้าหลวง รัชการที่ ๕ หรือ ปี
พ.ศ. ๒๔๓๖
เรือหลายลำท้องแบนติดผืนน้ำลอยอยู่เหนือลำน้ำ ผู้ชายบนเรือ
สาละวนอยู่กับการวาง มอง หรือตาข่ายดักปลา < ย้อนกลับ/หน้าถัดไป >

สารบัญ / หน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14