ถนนเงียบเสียจนผมต้องจอดรถและลงเดินไปตามถนนด้วยความเกรง
ใจ ป้ายถนนด้านขวามือเขียนว่าซอย ๑๔ ใต้เพิงเล็กๆ มีควันจากกอง
ไฟลอยโขมง ป้าเชื้อ
กับ ป้าแต้ง สองพี่น้องกำลังช่วยกันเผาข้าวหลาม
"เผาไปขายไปแหละหลานเอ้ย
เริ่มตั้งแต่ ๘ โมง พอ ๑๑ โมงก็เลิก ร้อนด้วย
พักดีกว่า" ป้าเชื้อผู้พี่คุย ขณะป้าแต้งผู้น้องสาละวนอยู่กับการถากเปลือกไม้ไผ่
"ป้าขายมา ๕๐ กว่าปีแล้ว
ขายตั้งแต่กระบอกละ ๑ สตางค์ ตอนนี้กระบอกใหญ่
นี่ ๒๕ บาท" กระบอกข้าวหลามของป้าเชื้อยาวประมาณ ๑ เมตร
๒๐เซนติเมตร
เป็นเสบียงที่เราเก็บไว้กินได้หลายวัน
ห้องแถวบางห้องเปิดประตูไว้แง้ม
ๆ เมื่อมองเข้าไปผมเห็นเพียงคนแก่ เกือบ
ทุกห้องมีสภาพเช่นนี้ เชียงคานไม่เพียงแต่นิ่งสงบ แต่ดูราวกับว่าเมืองนี้
จะเป็นแหล่งพักสำหรับผู้เฒ่าผู้นั่งครุ่นคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาหรือบางทีก็
อาจเหมาะกับใครหลายคนที่จะถือหนังสือเล่มโปรดติดมือนั่งในห้องพักเฝ้า
มองสายน้ำสลับกับนั่งอ่านหนังสือ
เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องออกเดินทางเสียก่อนจึงจะหยุดอยู่กับที่ได้
"ลูก ๆ ป้าไปอยู่ในจังหวัดกันหมด
ก็เหมือนกับเด็กแถวนี้นั่นแหละ เห็นแต่คนแก่ๆ
ใช่ไหมล่ะ" ป้าเชื้อหยีตาเอียงหน้าหลบควันไฟ
"คนแก่ๆ แถวนี้ไม่ลำบากหรอก
ถึงเดือนลูกเขาก็ส่งเงินมาให้ แต่ก็อยากเห็นหน้า
ลูกมากกว่า"
ควันไฟจางลงนานแล้ว แต่นัยน์ตาของป้าเชื้อยังมีหยาดน้ำใสๆ
<
ย้อนกลับ/หน้าถัดไป >
|