หลายคนปรารภว่าเส้นทางนี้เปรียบเสมือนกับถนนที่ถูกลืม
ทั้งๆ ที่หากจะว่าไปแล้วนี่คือถนนอันสวยงามเส้นหนึ่ง
หลายช่วงระหว่าง
เชียงคานถึงหนองคายพูดได้ว่าเราจะอยู่ห่างจากสายน้ำโขงเพียงแค่เอื้อม
กล่าวสำหรับการขับรถ นี่ย่อมไม่ใช่เส้นทางที่หาพบได้ง่ายๆ นานๆ
จึงจะ
มีรถสวนมาสักครั้ง
ที่คู่ไปกับลำน้ำคือภาพเรือลอยหาปลา
ผู้ชายรูปร่างทะมัดทะแมงบ้างก็ใช้มอง
บ้างก็ใช้ตุ้ม ซึ่งสานด้วยไม้ไผ่ เป็นภาพชีวิตที่พบเห็นได้ตลอด
เครื่องมือจับปลา
ของพวกเขาง่ายๆ รออยู่บนเรือเป็นวันๆ เพื่อแลกกับปลาไม่กี่ตัว
ไม่ใช่เรื่องน่า
เสียเวลาแต่อย่างใด ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ยอมให้เวลามากำหนด
วิถีชีวิต บนเส้นทาง
๒๑๑ ระหว่างเดินทางไปอย่างไม่เร่งรีบ ผมสัมผัสได้ว่า
ขณะอยู่ในเมืองดูเหมือน "เวลา" จะเป็นผู้ควบคุมชีวิต
จากเชียงคานมาราวๆ ๒๔
กิโลเมตร เราสะดุดตากับเพิงหลังคาหญ้าเรียงราย
ทุกเพิงมีหินก้อนกลมๆ แบนๆ กองอยู่ "บ้านหาดเบี้ย"
เป็นป้ายชื่อของหมู่บ้าน
นี่เป็นอาชีพเสริมของชาวบ้านแถบนี้ ในช่วงแล้งๆ พวกเขาจะขุดหาหินจาก
ดอนทรายในแม่น้ำเพื่อขายเป็นหินประดับ แน่นอน หินเหล่านี้คงเดินทางมา
อย่างยาวไกล หลายๆ ก้อนแบน มีไม่น้อยเป็นทรงกลม เมื่อเริ่มเดินทาง
หลาย
ก้อนคงไม่ได้มีรูปเช่นนี้ แต่การเดินทางและกระแสน้ำ ทำให้รูปร่างของหิน
เปลี่ยนแปลงไป
เช่นเดียวกัน
หลายคนเมื่อเริ่มออกเดินทางเป็นอย่างหนึ่ง หลังจากเดิน
ทางไปสักระยะ บางทีสิ่งเดิมที่เคยเห็นแม้จะมองด้วยดวงตาคู่เดิม
แต่
ความรู้สึกกลับเปลี่ยนไป
<
ย้อนกลับ/หน้าถัดไป >
|