"บ้านอยู่ไสล่ะ"
"มีแฟนหรือยัง" "อะไรนี่อุตส่าห์ข้ามมาซื้อเงาะไปถุงเดียวเอง"
ฯลฯ
เหล่านี้เป็นถ้อยคำจากชายร่างใหญ่ในชุดเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
เอ่ยทักทาย
กับผู้คนที่ข้ามมาจากเมืองปากกระดิ่ง บรรยากาศเป็นไปอย่างกันเอง
เรือท้องแบน
บรรทุกของและคนเต็มลำลอยระเรี่ยผิวน้ำวิ่งไปมาเหนือลำน้ำ
เมืองเล็กๆ
เงียบสงบอย่าง บุ่งคล้า
ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเมืองปากกระดิ่ง แขวงบริ
คำไชย มีจุดผ่อนปรนเปิดเฉพาะวันอังคารและวันศุกร์ และบริเวณนี้จะกลาย
เป็นตลาดนัดคึกคัก
"จะข้ามไปฝั่งโน้นก็ได้
เสียค่าผ่าน ๒๐ บาท ค่าเรือ ๒๐ บาท ค่าเหยียบแผ่นดิน
ฝั่งโน้นอีก ๒๐ บาท แต่ต้องกลับมาก่อน ๔ โมงนะ" นายตรวจแนะนำ
"โน่นถนนที่เห็นนั่นมาจากเวียงจันทน์ไปถึงจำปาสัก"
แม่น้ำช่วงนี้ดูกว้างขวาง
บันไดลงสู่เรือสูงชัน บางคนแบกตู้กระจกใบโตกว่าเรือ "เอาปลาไหมครับ
ตัวนี้
๗ กิโลฯ" ชายคนหนึ่งแบกปลาตัวโตมาเสนอนายตรวจ "โอ๊ย!"
ตัวใหญ่อย่างนี้
กินไม่หมดหรอก อยู่ตัวคนเดียวด้วย" แกเน้นคำว่าอยู่คนเดียวดังๆ
"ชาวบ้านแถบนี้ส่วนใหญ่เป็นญาติพี่น้องกัน
บางคนก็มีสองสัญชาติ ที่นี่จะคึกคัก
เฉพาะวันนี้ วันเปิดด่านนี้แหละ วันอื่นๆ ก็เงียบ
"นั่นๆ
คนนั้นมีแฟนเป็นคนลาวอพยพอยู่สหรัฐฯ" นายตรวจยิ้มหวานกับผู้หญิง
ที่เดินเข้ามาใกล้ๆ <
ย้อนกลับ/หน้าถัดไป
>
|