สารบัญ / หน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14

ห้องแถวไม้สองฟากฝั่งถนนคอนกรีตอันราบเรียบดูเงียบสงบหลายห้อง
ปิดหน้าห้องไว้ด้วยประตูไม้คล้องกุญแจดอกโต ด้านหลังห้องแถวคือ
สายน้ำโขงที่กำลังเพิ่มระดับไหลแรง

"เชียงคานทุกวันนี้ก็เป็นอย่างนี้แหละ เงียบๆ คนหนุ่มคนสาวเขาไปเรียน ไปทำ
งานอยู่ต่างจังหวัดกันหมด พ่อแม่ก็เลยปิดบ้านตามไปอยู่กับลูก ปิดบ้านไว้ ปีหนึ่ง
ก็จะมาสักครั้ง" คุณยายบุญมี ในวัย ๗๓ ปี พูดพลางสาละวนอยู่กับการพับผ้า
ห่มนวม จังหวัดเลยได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งฝ้าย รวมทั้งฝีมือการทำผ้านวมของ
ชาวเชียงคานก็เป็นที่เลื่องลือมายาวนาน

"เมื่อก่อนยายทำเยอะ ต้องส่งไปเวียงจันทน์และเมืองหลวงด้วย" คุณยายหมาย
ถึงเมืองหลวงพระบาง

"คนจากฝั่งโน้นเขามาอาศัยกินกับเรา เราก็ไปขายของให้เขา รักกันเหมือนญาติ
รู้จักกันหมด" ฮักกันร่วมทำบุญทำทานดูจะเป็นถ้อยคำที่ชาวเมืองนี้พูดติดปาก
ฝั่งโน้นของคุณยายคือเมืองสานะคาม ที่ตั้งของอำเภอเชียงคานในปัจจุบัน เดิม
เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อว่า บ้านท่านาจันทร์ เมืองเชียงคานจริงๆ นั้นอยู่ฝั่งลาว
ในสมัยรัชกาลที่ ๕ พวกจีนฮ่อเข้าโจมตีปล้นสะดมอยู่ตลอดเวลา บางครั้งหนัก
ข้อถึงขนาดยกกองทัพเข้ายึดเมืองหลวงพระบาง คนลาวจำนวนมากหนีพวกฮ่อ
ลงมาทางใต้ เลยมาถึงเมืองเชียงคานจำนวนไม่น้อยเช่นกัน เมื่อพวกฮ่อได้ใจตีรุก
ไล่หวังจะยึดเมืองเวียงจันทน์ ชาวเมืองเชียงคาน ซึ่งอยู่บนเส้นทางผ่านของกอง
ทัพฮ่อจึงอพยพข้ามลำน้ำโขงมาสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่บ้านท่านาจันทร์

"วัดมหาธาตุนี่แหละที่ก่อตั้งขึ้นพร้อม ๆ กับเมืองเชียงคาน" คุณยายผัด
สุวรรณดี
กำลังเก็บปิ่นโต หลังจากจัดสำรับที่นำมาถวายพระเสร็จแล้วเล่าเสียง
เบา เหนือบานประตูโบสถ์ปูนเก่าคร่ำคร่าเห็นรูปเขียนเพียงเลือนราง

"นั่นเป็นภาพชุดพระเวสสันดรน่ะ แต่ตอนนี้ปูนมันลอกหมดแล้ว ก็วัดสร้างมาตั้ง
๓๐๐ กว่าปีแล้วนี่" คุณยายเล่าต่อ < ย้อนกลับ/หน้าถัดไป >

สารบัญ / หน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14