|
อลังการหุบหินปูนและป่าดิบ
"เก็บกระเป๋าได้เลยพี่ สุดสัปดาห์นี้ไปพายเรือที่เขาสกกัน"
สิ้นเสียงโทรศัพท์จากกองบรรณาธิการ ผมก็งงไปพักหนึ่ง เพราะยังจินตนาการไม่ออกว่าไปพายคายักที่เขาสกหน้าตามันจะออกมาเป็นอย่างไร
เคยพายแต่ในทะเลและลำคลองลัดเลาะเข้าไปในป่าชายเลนดิบ ๆ แต่ขึ้นชื่อว่าเขาสกย่อมยิ่งใหญ่
ภาพของตัวเองในเรือคายักลำน้อยท่ามกลางผืนน้ำกว้างในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภาจึงค่อย
ๆ แจ่มชัดขึ้น จากกรุงเทพฯ ฝนฝนพรำไปเกือบตลอดทางจนถึงท่าเรือเขื่อนรัชชประภา
ผมกับเพื่อน ๆ ช่วยกันแบกเรือคายักลำโตลงจากหลังคารถไปใส่เรือหางยาวลำใหญ่
แถมยังมีสัมภาระอีกเพียบพอเรือหางยาวติดเครื่อง บ่ายหน้าตรงไปยังทิวเขาหินปูนตระหง่านเบื้องหน้า
ก็รู้สึกเหมือนกับกำลังอยู่กลางทะเลมากกว่าเพราะท้องน้ำที่นี่กว้างและลึกอีกทั้งมีเกาะน้อยใหญ่
ยอดแหลมผลุบ ๆ โผล่ ๆ เต็มไปหมด ได้บรรยากาศของความลึกลับตามซอกหลืบของโพรงถ้ำและชะง่อนผาสูงลิบ
45 นาทีไปทางทิศเหนือผมก็ถึงเรือนแพริมน้ำ บรรยากาศดีที่แอบอิงอยู่กับป่าดิบชื้นแน่นขนัด
ชื่อแพต้นน้ำ ซึ่งมีเทือกเขาพังความสูงนับร้อย ๆ เมตร เป็นปราการธรรมชาติอยู่ทางทิศตะวันตกและเขาปากปลารูปทรงพิสดารอยู่ตรงกันข้าม
เห็นบรรยากาศเงียบสงบท่ามกลางขุนเขาแบบนี้ ผมก็ยิ้มออกผืนน้ำช่างเรียบเงียบสงบไม่ต้องพายสู้คลื่นหนัก
ๆ เหมือนในทะเล อดใจไม่ไหวแล้ว ผมรีบเปลี่ยนชุดลงเรือพายลัดเลาะ
--->
|