|
ที่ทะเลในมีแพพักอยู่แห่งเดียวพร้อมเรือคายักแบบ 2 ที่นั่งและชูชีพไว้บริการ
ผมเห็นผืนน้ำและผาหินปูนเบื้องหน้าก็อดใจไม่ไหวตามเคย เราเลยรีบเอาคายักออกแหวกน้ำไปเนิบๆ
จุดแรกเราพายตัดท้องน้ำเรียบตรงไปยังโพรงถ้ำหลายแห่งที่อยู่สูงจากท้องน้ำไม่มาก
พอจะพายมุดเข้าไปชมความงามของหินย้อยได้ เมื่อก่อนถ้ำแถบนี้ทั้งสูงและมีขนาดใหญ่มาก
แต่พอน้ำจากเขื่อนท่วมขึ้นมา ถ้ำเลยจมน้ำ เหลือเพียงเพดานถ้ำไว้เป็นอนุสรณ์
เสียงคุยเงียบหายไปนานแล้ว เพราะทุกคนต่างถูกสะกดอยู่กับความยิ่งใหญ่
ลึกลับ วังเวง และความทะมึนทึนทึกของโพรงถ้ำนั้น มีอยู่โพรงหนึ่งเราได้กลิ่นเหม็นเน่า
ๆ โชยออกมา จึงมองตากันเลิ่กลั่ก คุณนิยมสะกิดผมพลางกระซิบเบา ๆ
"กลิ่นขี้ค้างคาวน่ะ ไม่ต้องตกใจ" เฮ้อ! โล่งอกไปที นึกว่ากลิ่นของซากมนุษย์ที่สัตว์ประหลาดจับเข้าไปกินซะอีก
! (ดูหนังมากเกินไปแล้ว)
ถัดจากหน้าผาที่มีโพรงถ้ำลึกลับ เราพายช้า ๆ ผ่านเกาะหินปูนที่มียอดแหลมคมเตี้ย
ๆ โผล่พ้นน้ำไปยังหน้าผาหินปูนบริเวณส่วนเกือบเหนือสุดของผืนน้ำทะเลใน
มีของให้ตื่นตาตื่นใจอีกแล้วสำหรับคนรักต้นไม้อย่างผม บนผาหินปูนลูกหนึ่งมีต้นจันทร์ผา
(Dracaena sp.) แตกกองอกงามอยู่เต็มพรืดไปหมด เป็นลักษณะเฉพาะโดดเด่นของของเขาหินปูนที่งดงามหาได้ยากยิ่ง
...
|